ข้อแนะนำในการแก้ปัญหา

หากประสบปัญหาในการใช้กล้อง ให้อ้างอิงข้อแนะนำในการแก้ปัญหานี้ก่อน หากข้อแนะนำในการแก้ปัญหานี้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ให้นำกล้องไปยังศูนย์บริการแคนนอนใกล้บ้าน

ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน

ไม่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ด้วยแท่นชาร์จแบตเตอรี่

  • ห้ามใช้แบตเตอรี่แพ็คอื่นๆ นอกเหนือจากแบตเตอรี่แพ็ค รุ่น LP-E17 ของแท้จากแคนนอน
  • ในกรณีที่มีปัญหาในการชาร์จหรือแท่นชาร์จ โปรดดู การชาร์จแบตเตอรี่

หลอดไฟของแท่นชาร์จกะพริบด้วยความเร็วสูง

  • ไฟแสดงสถานะสีส้มกะพริบต่อเนื่องแบบถี่ๆ บ่งบอกว่าวงจรป้องกันได้หยุดการชาร์จเนื่องจาก (1) แท่นชาร์จแบตเตอรี่หรือแบตเตอรี่มีปัญหา หรือ (2) การสื่อสารกับแบตเตอรี่ล้มเหลว (เช่น เมื่อใช้แบตเตอรี่ที่ไม่ใช่ของแคนนอน) ในกรณีที่ (1) ให้ถอดปลั๊กแท่นชาร์จ ถอดแบตเตอรี่ออกแล้วใส่ใหม่ และรอสักครู่ก่อนเสียบปลั๊กแท่นชาร์จอีกครั้ง หากปัญหายังคงมีอยู่ ให้นำกล้องไปยังศูนย์บริการแคนนอนใกล้บ้าน

หลอดไฟของแท่นชาร์จไม่กะพริบ

  • เพื่อความปลอดภัย แบตเตอรี่ร้อนหรือเย็นที่ใส่เข้าไปในแท่นชาร์จจะไม่ได้รับการชาร์จ และไฟแสดงสถานะยังคงดับอยู่ ในกรณีนี้ ปล่อยให้แบตเตอรี่ปรับเข้ากับอุณหภูมิแวดล้อมก่อนที่จะพยายามชาร์จอีกครั้ง หากอุณหภูมิของแบตเตอรี่ระหว่างการชาร์จสูงขึ้นไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ การชาร์จจะหยุดลงโดยอัตโนมัติ (หลอดไฟกะพริบ) การชาร์จจะเริ่มใหม่โดยอัตโนมัติเมื่ออุณหภูมิของแบตเตอรี่ลดลง

ไม่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ด้วยอะแดปเตอร์ไฟฟ้า USB (แยกจำหน่าย)

  • แบตเตอรี่จะไม่ได้รับการชาร์จขณะปรับสวิตช์เปิด/ปิดกล้องไปที่ เปิดเครื่อง อย่างไรก็ตาม แบตเตอรี่จะถูกชาร์จระหว่างการปิดสวิตช์อัตโนมัติ
  • เมื่อมีการใช้งานกล้อง การชาร์จจะหยุดลง

ไฟแสดงสถานะกะพริบในระหว่างการชาร์จด้วยอะแดปเตอร์ไฟฟ้า USB

  • ในกรณีที่เกิดปัญหาในการชาร์จ ไฟแสดงสถานะการชาร์จจะกะพริบเป็นสีเขียว และตัวป้องกันระบบวงจรไฟฟ้าจะตัดระบบการชาร์จ ในกรณีนี้ ให้ถอดปลั๊กไฟ ทำการใส่แบตเตอรี่เข้าไปในแท่นชาร์จใหม่อีกครั้ง และรอประมาณ 2-3 นาที จากนั้นให้เสียบปลั๊กอีกครั้ง หากปัญหายังคงมีอยู่ ให้นำกล้องไปยังศูนย์บริการแคนนอนใกล้บ้าน
  • หากแบตเตอรี่ร้อนหรือเย็น ไฟแสดงสถานะจะกะพริบเป็นสีเขียวและวงจรป้องกันจะหยุดการชาร์จ ในกรณีนี้ ปล่อยให้แบตเตอรี่ปรับเข้ากับอุณหภูมิแวดล้อมก่อนที่จะพยายามชาร์จอีกครั้ง

ไฟแสดงสถานะไม่สว่างขึ้นในระหว่างการชาร์จด้วยอะแดปเตอร์ไฟฟ้า USB

  • ลองถอดและเสียบอะแดปเตอร์ไฟฟ้า USB อีกครั้ง

ไม่สามารถให้พลังงานกล้องด้วยอะแดปเตอร์ไฟฟ้า USB

  • ตรวจสอบช่องใส่แบตเตอรี่ กล้องจะไม่ได้รับพลังงานหากไม่มีแบตเตอรี่แพ็ค
  • ตรวจสอบระดับแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ เมื่อแบตเตอรี่หมด อะแดปเตอร์จะทำการชาร์จ ในกรณีนี้ ไม่มีการให้พลังงานกับกล้อง

กล้องไม่ทำงานแม้จะปรับสวิตช์เปิด/ปิดไปที่ เปิดเครื่อง

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าใส่แบตเตอรี่ลงในกล้องอย่างถูกต้อง ()
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าปิดฝาครอบช่องใส่การ์ด/แบตเตอรี่แล้ว ()
  • ชาร์จแบตเตอรี่ ()

ไฟแสดงสถานะยังคงสว่างหรือกะพริบแม้จะปรับสวิตช์เปิด/ปิดไปที่ ปิดเครื่อง

  • หากปิดกล้องขณะกำลังบันทึกภาพไปยังการ์ด ไฟแสดงสถานะจะยังคงสว่างหรือกะพริบต่อไปอีกสักครู่ เมื่อบันทึกภาพเสร็จสิ้นแล้ว กล้องจะปิดโดยอัตโนมัติ

[การสื่อสารกับแบตเตอรี่ขัดข้อง แบตเตอรี่นี้แสดงโลโก้ Canon หรือไม่] แสดงขึ้น

  • ห้ามใช้แบตเตอรี่แพ็คอื่นๆ นอกเหนือจากแบตเตอรี่แพ็ค รุ่น LP-E17 ของแท้จากแคนนอน
  • ถอดและติดตั้งแบตเตอรี่ใหม่อีกครั้ง ()
  • หากขั้วไฟฟ้าไม่สะอาด ให้ทำความสะอาดด้วยผ้านุ่ม

พลังงานแบตเตอรี่หมดลงอย่างรวดเร็ว

  • ใช้แบตเตอรี่ที่ชาร์จไฟจนเต็ม ()
  • ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่อาจลดลง โปรดดู [ตั้งค่า: ข้อมูลแบตเตอรี่] เพื่อตรวจสอบระดับประสิทธิภาพในการชาร์จของแบตเตอรี่ () หากประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ต่ำ ให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่
  • จำนวนภาพที่ถ่ายได้จะลดลงเมื่อมีการทำงานใดๆ ต่อไปนี้:

    • การกดปุ่มชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่งเป็นระยะเวลานาน
    • การเปิดใช้งาน AF บ่อยๆ โดยไม่มีการถ่ายภาพ
    • การใช้ระบบลดภาพสั่นของเลนส์
    • การใช้ฟังก์ชั่นการสื่อสารแบบไร้สาย

กล้องจะปิดเครื่องเอง

  • ระบบปิดสวิตซ์อัตโนมัติกำลังทำงาน หากต้องการปิดใช้งานระบบปิดสวิตช์อัตโนมัติ ให้ตั้งค่า [ปิดสวิตช์อัตโนมัติ] ใน [ตั้งค่า: ประหยัดพลังงาน] เป็น [ไม่ใช้งาน] ()
  • แม้ว่าจะตั้งค่า [ปิดสวิตช์อัตโนมัติ] เป็น [ไม่ใช้งาน] หน้าจอและช่องมองภาพจะยังคงปิดลงหลังจากที่ไม่ได้ใช้งานกล้องเป็นเวลาที่ตั้งไว้ใน [ปิดหน้าจอ] หรือ [ปิดช่องมองภาพ] (ทั้งที่กล้องยังเปิดอยู่)

ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายภาพ

ไม่สามารถติดตั้งเลนส์ได้

  • ในการติดตั้งเลนส์ EF หรือ EF-S คุณจะต้องใช้เมาท์อะแดปเตอร์ กล้องไม่สามารถใช้ร่วมกับเลนส์ EF-M ได้ ()

ไม่สามารถถ่ายภาพหรือบันทึกภาพได้

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าใส่การ์ดอย่างถูกต้อง ()
  • เลื่อนสวิตช์ป้องกันการเขียนของการ์ดไปที่การตั้งค่าเขียน/ลบ ()
  • หากการ์ดเต็ม ให้เปลี่ยนการ์ดหรือลบภาพที่ไม่จำเป็นทิ้งเพื่อให้มีที่ว่าง (, )
  • จะไม่สามารถถ่ายภาพได้ หากจุดโฟกัสอัตโนมัติเป็นสีส้มในขณะที่คุณพยายามที่จะโฟกัส กดปุ่มชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่งอีกครั้งเพื่อโฟกัสใหม่โดยอัตโนมัติ หรือโฟกัสด้วยตนเอง (, )

ไม่สามารถใช้งานการ์ดได้

ข้อความแสดงข้อผิดพลาดจะแสดงขึ้นเมื่อใส่การ์ดในกล้องตัวอื่น

  • เนื่องจากการ์ด SDXC จะถูกฟอร์แมตแบบ exFAT หากคุณฟอร์แมตการ์ดด้วยกล้องนี้ แล้วใส่เข้าไปในกล้องตัวอื่น ข้อผิดพลาดอาจแสดงขึ้นและอาจไม่สามารถใช้งานการ์ดได้

ภาพหลุดโฟกัสหรือเบลอ

  • ตั้งโหมดโฟกัสไว้ที่ โฟกัสอัตโนมัติ ()
  • กดปุ่มชัตเตอร์เบาๆ เพื่อป้องกันไม่ให้กล้องสั่น ()
  • สำหรับเลนส์ที่มีระบบป้องกันภาพสั่น ให้ปรับสวิตช์กันสั่นไปที่ เปิดเครื่อง
  • ความเร็วชัตเตอร์อาจลดลงเมื่ออยู่ในสภาวะแสงน้อย ใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่เร็วขึ้น () ตั้งค่าความไวแสง ISO ที่สูงขึ้น () ใช้แฟลช () หรือใช้ขาตั้งกล้อง
  • โปรดดู การลดภาพเบลอ

ไม่สามารถล็อคโฟกัสและจัดองค์ประกอบภาพได้

  • ตั้งค่าการทำงานของ AF เป็น AF ครั้งเดียว () การถ่ายภาพด้วยการล็อคโฟกัสจะไม่สามารถทำได้เมื่อใช้ Servo AF ()

ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องช้า

จำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุดขณะถ่ายภาพต่อเนื่องลดลง

แม้จะเปลี่ยนการ์ดแล้ว แต่จำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุดที่แสดงสำหรับการถ่ายต่อเนื่องยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

  • จำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุดโดยประมาณที่แสดงในช่องมองภาพจะไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อคุณเปลี่ยนการ์ด แม้ว่าคุณจะเปลี่ยนเป็นการ์ดความเร็วสูงก็ตาม จำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุดที่ระบุไว้ใน จำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุดของการถ่ายภาพต่อเนื่อง [ประมาณ] ขึ้นอยู่กับการ์ดทดสอบมาตรฐานของแคนนอน และจำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุดจริงจะสูงกว่าสำหรับการ์ดที่มีความเร็วในการเขียนเร็วขึ้น ด้วยเหตุนี้ จำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุดโดยประมาณอาจแตกต่างจากจำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุดที่แท้จริง

การแสดงภาพความเร็วสูงไม่สามารถใช้ได้ในระหว่างการถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูง

ไม่สามารถตั้งค่าอัตราส่วนภาพได้

  • ไม่สามารถตั้งค่าอัตราส่วนภาพได้เมื่อตั้งค่า [การตั้งค่าระบบส่วนตัว: เพิ่มข้อมูลตัดขอบภาพ] เป็นตัวเลือกอื่นนอกเหนือจาก [ไม่ใช้งาน]

ไม่สามารถตั้งค่า ISO 100 ได้สำหรับการถ่ายภาพนิ่ง

  • ความไวต่ำสุดในขอบเขตความไวแสง ISO คือ ISO 200 เมื่อตั้งค่า [การถ่ายภาพ: เน้นโทนภาพบริเวณสว่าง] เป็น [ใช้งาน] หรือ [เพิ่มประสิทธิภาพ]

ไม่สามารถเลือกความไวแสง ISO แบบขยายได้สำหรับการถ่ายภาพนิ่ง

  • ตรวจสอบการตั้งค่า [ขอบเขตไวแสง ISO] ภายใต้ [การถ่ายภาพ: ภาพนิ่งการตั้งค่าความไวแสง ISO]
  • ความไวแสง ISO แบบขยายไม่สามารถใช้งานได้เมื่อตั้งค่า [การถ่ายภาพ: เน้นโทนภาพบริเวณสว่าง] เป็น [ใช้งาน] หรือ [เพิ่มประสิทธิภาพ]
  • ความไวแสง ISO แบบขยายไม่สามารถใช้งานได้เมื่อตั้งค่า [การถ่ายภาพ: ถ่ายภาพ HDR HDR PQ] เป็น [ใช้งาน]

แม้ว่าจะปรับลดการชดเชยแสง ภาพที่ออกมายังสว่างอยู่

  • ตั้งค่า [การถ่ายภาพ: ปรับแสงเหมาะสมอัตโนมัติ] เป็น [ไม่ใช้งาน] () เมื่อตั้งค่าเป็น [ต่ำ], [มาตรฐาน] หรือ [สูง] แม้ว่าคุณจะตั้งค่าการชดเชยแสงหรือการชดเชยระดับแสงแฟลชที่ลดลง ภาพก็อาจออกมาสว่าง

ไม่สามารถตั้งค่าปรับชดเชยแสงได้ในขณะที่ตั้งเป็นตั้งค่าระดับแสงด้วยตนเองและ ISO อัตโนมัติไว้พร้อมกัน

ตัวเลือกการแก้ไขความคลาดเคลื่อนของเลนส์ไม่แสดงขึ้นมาทั้งหมด

  • เมื่อตั้งค่า [ตัวปรับคุณภาพเลนส์ดิจิตอล] เป็น [มาตรฐาน] หรือ [สูง] ไว้ [แก้ไขสีคลาดเคลื่อน] และ [แก้ไขการเลี้ยวเบน] จะไม่แสดงขึ้น แต่ทั้งคู่จะถูกตั้งค่าเป็น [ใช้งาน] สำหรับการถ่ายภาพ
  • ระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว [ตัวปรับคุณภาพเลนส์ดิจิตอล] หรือ [แก้ไขการเลี้ยวเบน] จะไม่แสดงขึ้น

การใช้แฟลชในโหมด ระบุค่ารูรับแสง หรือ โปรแกรมระดับแสงอัตโนมัติ ทำให้ความเร็วชัตเตอร์ลดลง

  • ตั้งค่า [แฟลชความเร็วต่ำ] ใน [การถ่ายภาพ: ควบคุมแฟลช] เป็น [1/250-1/60 วินาที อัตโนมัติ] (หรือ [1/200-1/60 วินาที อัตโนมัติ]) หรือ [1/250 วินาที (คงที่)] (หรือ [1/200 วินาที (คงที่)]) ()

แฟลชในตัวกล้องไม่ทำงาน

  • การถ่ายภาพด้วยแฟลชอาจถูกปิดใช้งานชั่วคราวเพื่อปกป้องหัวแฟลช หากมีการใช้แฟลชในตัวกล้องซ้ำหลายครั้งในระยะเวลาสั้นๆ

Speedlite ภายนอกไม่ทำงาน

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ติดตั้งชุดแฟลชภายนอกเข้ากับกล้องอย่างมั่นคง

Speedlite มักจะยิงแสงเต็มกำลังไฟ

  • แฟลชอื่นนอกเหนือจาก Speedlite ซีรี่ส์ EL/EX ที่ใช้ในโหมดแฟลชอัตโนมัติจะยิงแสงเต็มกำลังไฟเสมอ ()
  • แฟลชจะยิงแสงเต็มกำลังไฟเสมอเมื่อ [โหมดวัดแสงแฟลช] ในการตั้งค่าระบบส่วนตัวของแฟลชภายนอกถูกตั้งค่าเป็น [1:TTL] (แฟลชอัตโนมัติ) ()

ไม่สามารถตั้งค่าการชดเชยระดับแสงแฟลชภายนอกได้

  • หากตั้งค่าชดเชยระดับแสงแฟลชกับ Speedlite ภายนอกแล้ว จะไม่สามารถตั้งค่าปริมาณการชดเชยด้วยกล้องได้ เมื่อยกเลิกการชดเชยระดับแสงแฟลชของ Speedlite (ตั้งเป็น 0) จึงจะสามารถตั้งค่าการชดเชยระดับแสงแฟลชด้วยกล้องได้

การซิงค์แฟลชความเร็วสูงไม่สามารถใช้งานได้ในโหมด ระบุค่ารูรับแสง หรือ ระดับแสงยืดหยุ่น

  • ตั้งค่า [แฟลชความเร็วต่ำ] ใน [การถ่ายภาพ: ควบคุมแฟลช] เป็นตัวเลือกอื่นที่ไม่ใช่ [1/250 วินาที (คงที่)] (หรือ [1/200 วินาที (คงที่)] ) ()

ไม่สามารถถ่ายภาพด้วยรีโมทคอนโทรลได้

ไอคอน [จำกัดความร้อนสูงเกินไป] สีขาวหรือ [จำกัดความร้อนสูงเกินไป (สีแดง)] สีแดงแสดงขึ้นระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว

  • แสดงว่าอุณหภูมิภายในตัวกล้องสูง สำหรับรายละเอียด โปรดดูข้อมูลเกี่ยวกับการแสดงตัวแจ้งเตือนในการบันทึกภาพเคลื่อนไหว ()

การบันทึกภาพเคลื่อนไหวหยุดลงเอง

  • หากความเร็วในการเขียนของการ์ดช้า การบันทึกภาพเคลื่อนไหวอาจหยุดลงโดยอัตโนมัติ สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับการ์ดที่สามารถใช้บันทึกภาพเคลื่อนไหว โปรดดู ความต้องการด้านประสิทธิภาพของการ์ด หากต้องการตรวจสอบความเร็วในการเขียนของการ์ด โปรดดูข้อมูลจากเว็บไซต์ของผู้ผลิตการ์ด ฯลฯ
  • ทำการฟอร์แมตแบบ Low Level เพื่อเตรียมใช้งานการ์ด หากความเร็วในการเขียนหรือการอ่านของการ์ดดูเหมือนว่าจะช้า ()
  • การบันทึกจะหยุดลงโดยอัตโนมัติเมื่อภาพเคลื่อนไหวของคุณถึง 2 ชั่วโมง (หรือ 30 นาที สำหรับภาพเคลื่อนไหวอัตราเฟรมสูง)

ไม่สามารถตั้งค่าความไวแสง ISO สำหรับการบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้

  • ความไวแสง ISO จะถูกตั้งค่าโดยอัตโนมัติในโหมดบันทึกภาพ [ภาพเคลื่อนไหว] คุณสามารถตั้งค่าความไวแสง ISO ได้ด้วยตนเองในโหมด [ภาพเคลื่อนไหวรับแสงเอง] ()
  • ความไวต่ำสุดในขอบเขตความไวแสง ISO คือ ISO 200 เมื่อตั้งค่า [การถ่ายภาพ: เน้นโทนภาพบริเวณสว่าง] เป็น [ใช้งาน] หรือ [เพิ่มประสิทธิภาพ]

ไม่สามารถเลือกความไวแสง ISO แบบขยายได้สำหรับการบันทึกภาพเคลื่อนไหว

  • ตรวจสอบการตั้งค่า [ขอบเขตไวแสง ISO] ภายใต้ [การถ่ายภาพ: ภาพเคลื่อนไหวการตั้งค่าความไวแสง ISO]
  • ความไวแสง ISO แบบขยายไม่สามารถใช้งานได้เมื่อตั้งค่า [การถ่ายภาพ: เน้นโทนภาพบริเวณสว่าง] เป็น [ใช้งาน] หรือ [เพิ่มประสิทธิภาพ]

การเปิดรับแสงเปลี่ยนไปในระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว

  • หากคุณเปลี่ยนความเร็วชัตเตอร์หรือค่ารูรับแสงในระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว ความเปลี่ยนแปลงในการเปิดรับแสงอาจถูกบันทึก
  • แนะนำให้บันทึกภาพเคลื่อนไหวทดสอบจำนวนสองสามคลิป หากคุณตั้งใจจะทำการซูมในระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว การซูมขณะที่คุณบันทึกภาพเคลื่อนไหวอาจทำให้ระดับแสงเปลี่ยนไป หรือมีการบันทึกเสียงเลนส์ หรือสูญเสียการโฟกัส

ภาพกะพริบหรือเส้นลายทางแนวนอนปรากฏขึ้นในระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว

  • การกะพริบ เส้นลายทางแนวนอน (จุดรบกวน) หรือค่าแสงที่ไม่สม่ำเสมออาจเกิดจากแสงไฟฟลูออเรสเซนต์ แสงไฟ LED หรือแหล่งแสงอื่นๆ ในระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว รวมถึงกล้องอาจบันทึกการเปลี่ยนแปลงของค่าแสง (ความสว่าง) หรือโทนสีอีกด้วย การใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่ต่ำลงอาจช่วยลดปัญหาได้ในโหมด [ภาพเคลื่อนไหวรับแสงเอง] ปัญหานี้อาจเห็นได้ชัดขึ้นในการบันทึกภาพเคลื่อนไหวแบบย่นเวลา

วัตถุดูบิดเบี้ยวในระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว

  • หากคุณขยับกล้องไปทางซ้ายหรือขวา (แพนกล้อง) หรือถ่ายภาพวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหว อาจทำให้ภาพดูบิดเบี้ยว ปัญหานี้อาจเห็นได้ชัดขึ้นในการบันทึกภาพเคลื่อนไหวแบบย่นเวลา

ไม่มีการบันทึกเสียงในภาพเคลื่อนไหว

  • เสียงจะไม่ถูกบันทึกในภาพเคลื่อนไหวอัตราเฟรมสูง

ไม่มีการเพิ่มไทม์โค้ด

  • ไม่มีการเพิ่มไทม์โค้ดเมื่อคุณบันทึกภาพเคลื่อนไหวอัตราเฟรมสูงโดยตั้งค่า [วิ่งขึ้น] ใน [การถ่ายภาพ: ไทม์โค้ด] เป็น [วิ่งอิสระ] () นอกจากนี้ ยังไม่มีการเพิ่มไทม์โค้ดในการแสดงผลวิดีโอ HDMI ()

ไทม์โค้ดคืบหน้าไปเร็วกว่าเวลาจริง

  • ไทม์โค้ดในการบันทึกภาพเคลื่อนไหวอัตราเฟรมสูงจะล่วงหน้าไป 4 วิ ต่อวินาที ()

ฉันไม่สามารถถ่ายภาพนิ่งในระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว

  • ไม่สามารถถ่ายภาพนิ่งในระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้ หากต้องการถ่ายภาพนิ่ง ให้หยุดการบันทึกภาพเคลื่อนไหว จากนั้นเลือกโหมดถ่ายภาพสำหรับภาพนิ่ง

ฉันไม่สามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวในระหว่างการถ่ายภาพนิ่ง

  • อาจไม่สามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวในระหว่างการถ่ายภาพนิ่งได้ หากมีการใช้งาน เช่น การแสดงภาพแบบ Live View เป็นเวลานานที่ทำให้อุณหภูมิภายในตัวกล้องเพิ่มขึ้น ปิดกล้องหรือใช้วิธีการอื่นๆ และรอจนกว่ากล้องจะเย็นลง
  • การลดขนาดการบันทึกภาพเคลื่อนไหวอาจทำให้สามารถบันทึกได้

ปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติไร้สาย

ไม่สามารถจับคู่กับสมาร์ทโฟน

  • ใช้สมาร์ทโฟนที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของ Bluetooth เวอร์ชั่น 4.1 หรือใหม่กว่า
  • เปิด Bluetooth จากหน้าจอการตั้งค่าของสมาร์ทโฟน
  • การจับคู่กับกล้องไม่สามารถทำได้จากหน้าจอการตั้งค่า Bluetooth ของสมาร์ทโฟน ติดตั้งแอป Camera Connect ที่กำหนดให้ใช้ (ไม่มีค่าใช้จ่าย) บนสมาร์ทโฟน ()
  • การจับคู่กับสมาร์ทโฟนที่จับคู่ไว้ก่อนหน้านี้ไม่สามารถทำได้หากข้อมูลการจับคู่ที่บันทึกไว้สำหรับกล้องตัวอื่นยังคงอยู่บนสมาร์ทโฟน ในกรณีนี้ ให้ลบการบันทึกข้อมูลของกล้องที่เก็บไว้ในการตั้งค่า Bluetooth บนสมาร์ทโฟนออกและลองจับคู่อีกครั้ง ()

ไม่สามารถตั้งค่าฟังก์ชั่น Wi-Fi ได้

  • หากกล้องเชื่อมต่ออยู่กับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่นด้วยสายเชื่อมต่อ จะไม่สามารถตั้งค่าฟังก์ชั่น Wi-Fi ได้ ให้ถอดสายเชื่อมต่อออกก่อนทำการตั้งค่าฟังก์ชั่นใดๆ ()

ไม่สามารถใช้งานอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อด้วยสายเชื่อมต่อ

  • อุปกรณ์อื่นๆ เช่น คอมพิวเตอร์ ไม่สามารถใช้งานกับกล้อง โดยการเชื่อมต่อด้วยสายเชื่อมต่อขณะที่กล้องเชื่อมต่ออยู่กับอุปกรณ์ผ่าน Wi-Fi ให้ยกเลิกการเชื่อมต่อ Wi-Fi ก่อนที่จะต่อสายเชื่อมต่อ

การดำเนินการ เช่น การถ่ายภาพและการเล่นภาพ ไม่สามารถใช้งานได้

  • เมื่อสร้างการเชื่อมต่อ Wi-Fi แล้ว การดำเนินการ เช่น การถ่ายภาพและการเล่นภาพ อาจไม่สามารถใช้งานได้ ยกเลิกการเชื่อมต่อ Wi-Fi จากนั้นจึงดำเนินการใช้งาน

ไม่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนอีกครั้ง

  • แม้ว่าจะใช้งานของกล้องและสมาร์ทโฟนเครื่องเดิม หากคุณเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าหรือเลือกการตั้งค่าอื่น อาจไม่สามารถทำการเชื่อมต่ออีกครั้งได้แม้ว่าได้เลือก SSID เดียวกันแล้ว ในกรณีนี้ ให้ลบการตั้งค่าการเชื่อมต่อของกล้องจากการตั้งค่า Wi-Fi บนสมาร์ทโฟนและตั้งค่าการเชื่อมต่ออีกครั้ง
  • การเชื่อมต่ออาจไม่ได้ถูกสร้างขึ้น หาก Camera Connect กำลังทำงานอยู่เมื่อคุณกำหนดการตั้งค่าการเชื่อมต่อใหม่ ในกรณีนี้ ให้ออกจาก Camera Connect สักครู่แล้วเริ่มการทำงานใหม่

ปัญหาในการใช้งาน

การตั้งค่าเปลี่ยนไปเมื่อฉันสลับจากการถ่ายภาพนิ่งเป็นการบันทึกภาพเคลื่อนไหวหรือกลับกัน

  • มีการเก็บการตั้งค่าแยกต่างหากไว้สำหรับการใช้งานเมื่อถ่ายภาพนิ่งและบันทึกภาพเคลื่อนไหว

ไม่สามารถเปลี่ยนการตั้งค่าด้วย ปุ่มหมุนหลัก, ปุ่มหมุนควบคุมทันใจ, ปุ่มอเนกประสงค์, แตะ/สัมผัส หรือ แหวนควบคุม

  • กดปุ่ม การล็อคหลายหน้าที่ เพื่อปลดการล็อคหลายหน้าที่ ()
  • ตรวจสอบการตั้งค่า [ตั้งค่า: ล็อคหลายหน้าที่] ()

ไม่สามารถทำการใช้งานแบบสัมผัสได้

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตั้งค่า [ตั้งค่า: แบบสัมผัส] เป็น [มาตรฐาน] หรือ [ไว] ()

ปุ่มหรือปุ่มหมุนของกล้องไม่ทำงานอย่างที่คาดหวังไว้

  • ในการบันทึกภาพเคลื่อนไหว ให้ตรวจสอบการตั้งค่า [การถ่ายภาพ: หน้าที่ปุ่มชัตเตอร์ของภาพเคลื่อนไหว] ()
  • ตรวจสอบการตั้งค่า [การตั้งค่าระบบส่วนตัว: ปรับการทำงานของปุ่ม], [การตั้งค่าระบบส่วนตัว: ปรับการทำงานปุ่มหมุน] และ [สลับ ปุ่มหมุนหลัก/ปุ่มหมุนควบคุมทันใจ เมื่อถ่ายภาพ] (, , )

ปัญหาในการแสดงผล

หน้าจอเมนูแสดงแถบและรายการน้อยลง

  • แถบและรายการบนหน้าจอเมนูจะแตกต่างกันไปสำหรับภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว

จอแสดงผลเริ่มต้นด้วยเมนูส่วนตัว [เมนูส่วนตัว] หรือแสดงแถบ [เมนูส่วนตัว] เพียงอย่างเดียว

  • มีการตั้งค่า [การแสดงเมนู] บนแถบ [เมนูส่วนตัว] เป็น [แสดงจากแถบเมนูส่วนตัว] หรือ [แสดงแถบเมนูส่วนตัวเท่านั้น] ตั้งค่าเป็น [แสดงแบบปกติ] ()

อักขระตัวแรกของชื่อไฟล์เป็นขีดล่าง (“_”)

  • ตั้งค่า [การถ่ายภาพ: พิกัดสี] เป็น [sRGB] หากตั้งค่าเป็น [Adobe RGB] อักขระตัวแรกจะเป็นขีดล่าง ()

ลำดับหมายเลขไฟล์ไม่เริ่มต้นที่ 0001

  • หากการ์ดมีภาพที่บันทึกอยู่แล้ว หมายเลขภาพอาจไม่เริ่มต้นจาก 0001 ()

ข้อมูลวันที่และเวลาที่ถ่ายภาพไม่ถูกต้อง

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตั้งค่าวันที่และเวลาที่ถูกต้อง ()
  • ตรวจสอบไทม์โซนและการปรับเวลาในฤดูร้อน ()

วันที่และเวลาไม่ปรากฏบนภาพ

  • วันที่และเวลาที่ถ่ายภาพไม่ปรากฏบนภาพ วันที่และเวลาที่ถ่ายภาพถูกจัดเก็บเป็นข้อมูลการถ่ายภาพไว้ในข้อมูลภาพ เมื่อคุณพิมพ์ภาพถ่าย ข้อมูลนี้สามารถใช้เพื่อใส่วันที่และเวลา ()

[###] แสดงขึ้น

  • หากจำนวนภาพถ่ายที่บันทึกบนการ์ดเกินกว่าจำนวนภาพที่กล้องสามารถแสดงได้ [###] จะแสดงขึ้น

หน้าจอแสดงภาพไม่ชัดเจน

  • หากหน้าจอสกปรก ให้ใช้ผ้านุ่มในการทำความสะอาด
  • การแสดงผลของหน้าจออาจดูช้าลงเล็กน้อยในที่อุณหภูมิต่ำหรืออาจดูดำมืดในที่อุณหภูมิสูง แต่จะกลับสู่สภาวะปกติที่อุณหภูมิห้อง

ปัญหาในการเล่นภาพ

บางส่วนของภาพกะพริบเป็นสีดำ

  • มีการตั้งค่า [การเล่นภาพ: เตือนบริเวณสว่างโพลน] เป็น [ใช้งาน] ()

มีกล่องสีแดงแสดงอยู่บนภาพ

  • มีการตั้งค่า [การเล่นภาพ: แสดงจุด AF] เป็น [ใช้งาน] ()

ระหว่างการดูภาพ จุด AF จะไม่แสดงขึ้น

  • จุด AF จะไม่แสดงขึ้นเมื่อดูภาพชนิดต่อไปนี้:

    • ภาพที่ถ่ายโดยใช้การลดจุดรบกวนด้วยการถ่ายหลายภาพ
    • ภาพที่ครอบตัด
    • ภาพจากการถ่ายภาพ HDR ด้วยการตั้งค่า [ปรับแนวอัตโนมัติ] เป็น [ใช้งาน]

ไม่สามารถลบภาพได้

  • หากภาพได้รับการป้องกัน จะไม่สามารถลบภาพได้ ()

ไม่สามารถเล่นภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวได้

  • กล้องนี้อาจไม่สามารถเล่นภาพที่ถ่ายด้วยกล้องอื่น
  • ภาพเคลื่อนไหวที่แก้ไขในคอมพิวเตอร์จะไม่สามารถเล่นด้วยกล้องได้

เฉพาะภาพบางภาพเท่านั้นที่สามารถเล่นได้

  • มีการกรองภาพไว้สำหรับการเล่นภาพด้วย [การเล่นภาพ: ตั้งเงื่อนไขค้นหาภาพ] () ล้างเงื่อนไขค้นหาภาพ

ได้ยินเสียงกลไกหรือเสียงการทำงานของกล้องในระหว่างการเล่นภาพเคลื่อนไหว

  • ไมโครโฟนในตัวกล้องอาจบันทึกเสียงกลไกของเลนส์หรือเสียงการทำงานของกล้อง/เลนส์ด้วย หากทำการใช้งาน AF หรือใช้งานกล้องหรือเลนส์ระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว ในกรณีนี้ การใช้ไมโครโฟนภายนอกอาจลดเสียงเหล่านี้ หากเสียงยังคงรบกวนเมื่อใช้ไมโครโฟนภายนอก การถอดไมโครโฟนภายนอกออกจากกล้องและวางไว้ห่างจากกล้องและเลนส์อาจได้ผลดีกว่า

การเล่นภาพเคลื่อนไหวหยุดลงเอง

  • การเล่นภาพเคลื่อนไหวที่ยาวนานหรือการเล่นภาพเคลื่อนไหวภายใต้อุณหภูมิแวดล้อมสูงอาจทำให้อุณหภูมิภายในตัวกล้องสูงขึ้น และการเล่นภาพเคลื่อนไหวอาจหยุดลงโดยอัตโนมัติ

    หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ การเล่นภาพจะถูกปิดใช้งานจนกว่าอุณหภูมิภายในตัวกล้องจะลดลง ดังนั้นให้ปิดสวิตช์กล้องและปล่อยให้กล้องเย็นลงสักครู่

ภาพเคลื่อนไหวค้างเป็นช่วงๆ

  • การเปลี่ยนแปลงระดับแสงที่เด่นชัดระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหวแบบเปิดรับแสงอัตโนมัติอาจทำให้การบันทึกหยุดลงชั่วขณะจนกว่าความสว่างจะคงที่ ในกรณีนี้ ให้บันทึกในโหมด [ภาพเคลื่อนไหวรับแสงเอง] ()

ภาพเคลื่อนไหวมีการเล่นภาพช้า

  • ภาพเคลื่อนไหวอัตราเฟรมสูงจะถูกบันทึกเป็น 29.97 fps หรือ 25.00 fps ดังนั้นจึงมีการเล่นภาพช้าด้วยความเร็ว 1/4

ไม่มีภาพปรากฏบนโทรทัศน์

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตั้งค่า [ตั้งค่า: ระบบวิดีโอ] เป็น [สำหรับ NTSC] หรือ [สำหรับ PAL] อย่างถูกต้องสำหรับระบบวิดีโอของโทรทัศน์ของคุณ
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เสียบปลั๊กสาย HDMI เข้าไปจนสุดแล้ว ()

มีไฟล์ภาพเคลื่อนไหวหลายไฟล์สำหรับการบันทึกภาพเคลื่อนไหวครั้งเดียว

  • หากขนาดไฟล์ภาพเคลื่อนไหวถึง 4 GB ไฟล์ภาพเคลื่อนไหวอีกไฟล์จะถูกสร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ () อย่างไรก็ตาม หากคุณใช้การ์ด SDXC ที่ฟอร์แมตด้วยกล้อง คุณจะสามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวเป็นไฟล์เดียวได้แม้ขนาดไฟล์เกิน 4 GB

ตัวอ่านการ์ดตรวจหาการ์ดไม่พบ

  • ขึ้นอยู่กับตัวอ่านการ์ดที่ใช้และระบบปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์ อาจทำให้ไม่สามารถตรวจหาการ์ด SDXC ได้อย่างถูกต้อง ในกรณีนี้ ให้เชื่อมต่อกล้องเข้ากับคอมพิวเตอร์ด้วยสายเชื่อมต่อ จากนั้นนำเข้าภาพไปยังคอมพิวเตอร์โดยใช้ EOS Utility (ซอฟต์แวร์ EOS, )

ไม่สามารถปรับขนาดหรือตัดขอบภาพได้

  • กล้องนี้ไม่สามารถปรับขนาดภาพ JPEG เล็ก 2, ภาพ RAW หรือภาพที่ดึงเฟรมจากภาพเคลื่อนไหว 4K แล้วบันทึกเป็นภาพนิ่ง ()
  • กล้องนี้ไม่สามารถตัดขอบภาพ RAW หรือภาพที่ดึงเฟรมจากภาพเคลื่อนไหว 4K แล้วบันทึกเป็นภาพนิ่ง ()

จุดแสงปรากฏขึ้นบนภาพ

  • จุดแสงสีขาว สีแดง หรือสีน้ำเงินอาจปรากฏในภาพที่ถ่าย หากเซนเซอร์ได้รับผลกระทบจากรังสีคอสมิกหรือปัจจัยที่ใกล้เคียง ลักษณะที่ปรากฏเหล่านั้นอาจลดลงได้โดยดำเนินการ [ทำความสะอาดเดี๋ยวนี้ทำความสะอาดเดี๋ยวนี้] ภายใต้ [ตั้งค่า: ทำความสะอาดเซนเซอร์] ()

ปัญหาในการทำความสะอาดเซนเซอร์

มีเสียงชัตเตอร์ในระหว่างที่ทำความสะอาดเซนเซอร์

  • แม้ว่าจะมีเสียงกลไกจากชัตเตอร์ในระหว่างการทำความสะอาดหลังจากเลือก [ทำความสะอาดเดี๋ยวนี้ทำความสะอาดเดี๋ยวนี้] แต่จะไม่มีการบันทึกภาพลงในการ์ด ()

การทำความสะอาดเซนเซอร์แบบอัตโนมัติไม่ทำงาน

  • การหมุนสวิตช์เปิด/ปิดกล้องไปที่ เปิดเครื่อง และ ปิดเครื่อง ซ้ำไปมาในช่วงเวลาสั้นๆ อาจทำให้ไอคอน [ทำความสะอาดเดี๋ยวนี้] ไม่แสดงขึ้น ()

ปัญหาในการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์

ไม่สามารถถ่ายโอนภาพไปยังคอมพิวเตอร์

  • ติดตั้ง EOS Utility (ซอฟต์แวร์ EOS) บนคอมพิวเตอร์ ()
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน้าต่างหลักของ EOS Utility แสดงขึ้น
  • หากกล้องเชื่อมต่อกับ Wi-Fi อยู่แล้ว กล้องจะไม่สามารถเชื่อมต่อได้กับคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่เชื่อมต่ออยู่กับสายเชื่อมต่อ
  • ตรวจสอบรุ่นของแอปพลิเคชั่น

การสื่อสารระหว่างกล้องที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ไม่ทำงาน

  • เมื่อใช้งาน EOS Utility (ซอฟต์แวร์ EOS) ให้ตั้งค่า [การถ่ายภาพ: วีดีโอไทม์แลปส์] เป็น [ไม่ใช้งาน] ()

ปัญหาเกี่ยวกับฐานเสียบอเนกประสงค์

มีข้อความแสดงขึ้นบนหน้าจอเมื่อฉันติดอุปกรณ์เสริม

  • หาก [การสื่อสารขัดข้อง ต่ออุปกรณ์เสริมอีกครั้ง] แสดงขึ้น ให้ติดอุปกรณ์เสริมใหม่อีกครั้ง ในกรณีที่ข้อความนี้แสดงขึ้นอีกครั้งหลังจากการติดอุปกรณ์เสริมใหม่ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าช่องต่อของฐานเสียบอเนกประสงค์และอุปกรณ์เสริมสะอาดและแห้ง หากคุณไม่สามารถขจัดสิ่งสกปรกหรือความชื้น โปรดติดต่อศูนย์บริการแคนนอน
  • หาก [สถานะของอุปกรณ์เสริมไม่พร้อมใช้งาน] แสดงขึ้น ให้ตรวจสอบช่องต่อของฐานเสียบอเนกประสงค์และอุปกรณ์เสริม และตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์เสริมไม่เสียหาย