ข้อแนะนำในการแก้ปัญหา

แก้ไขปัญหากล้องตามที่อธิบายไว้ในส่วนนี้ หากข้อแนะนำในการแก้ปัญหานี้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ให้นำกล้องไปยังศูนย์บริการแคนนอนใกล้บ้าน

ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน

ชาร์จแบตเตอรี่ไม่ได้

  • หากประจุที่เหลืออยู่ของแบตเตอรี่ () เป็น 94% หรือสูงกว่า แบตเตอรี่จะไม่มีการชาร์จ
  • อย่าใช้แบตเตอรี่แพ็คอื่นนอกเหนือจากแบตเตอรี่แพ็ครุ่น LP-E12 ของแท้จากแคนนอน

หลอดไฟของแท่นชาร์จแบตเตอรี่กะพริบอย่างรวดเร็ว

  • หาก (1) แท่นชาร์จแบตเตอรี่หรือแบตเตอรี่มีปัญหา หรือ (2) การอ่านข้อมูลแบตเตอรี่ล้มเหลว (กับชุดแบตเตอรี่ที่ไม่ใช่ของแคนนอน) ระบบการป้องกันจะทำการหยุดชาร์จและหลอดไฟของแท่นชาร์จจะกะพริบเป็นสีส้มอย่างรวดเร็วแบบต่อเนื่อง ในกรณีที่ (1) ให้ถอดปลั๊กของแท่นชาร์จออกจากเต้ารับ เอาแบตเตอรี่ออกแล้วใส่กลับเข้าไปในแท่นชาร์จใหม่อีกครั้ง รอประมาณ 2-3 นาที จากนั้นเสียบปลั๊กเข้ากับเต้ารับอีกครั้ง หากปัญหายังคงมีอยู่ ให้นำกล้องไปยังศูนย์บริการแคนนอนใกล้บ้าน

หลอดไฟของแท่นชาร์จแบตเตอรี่ไม่กะพริบ

  • หากอุณหภูมิภายในของแบตเตอรี่ที่อยู่ในแท่นชาร์จสูง เพื่อความปลอดภัยแท่นชาร์จจะไม่ทำการชาร์จแบตเตอรี่ (หลอดไฟดับ) หากอุณหภูมิของแบตเตอรี่ระหว่างการชาร์จสูงขึ้นไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ การชาร์จจะหยุดลงโดยอัตโนมัติ (หลอดไฟกะพริบ) การชาร์จจะเริ่มใหม่โดยอัตโนมัติเมื่ออุณหภูมิของแบตเตอรี่ลดลง

กล้องไม่ทำงานแม้จะปรับสวิตช์เปิด/ปิดไปที่ เปิดเครื่อง

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าปิดฝาครอบช่องใส่การ์ด/แบตเตอรี่แล้ว ()
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าติดตั้งแบตเตอรี่ลงในกล้องอย่างถูกต้อง ()
  • ชาร์จแบตเตอรี่ ()

ไฟแสดงสถานะยังคงสว่างหรือกะพริบแม้จะปรับสวิตช์เปิด/ปิดไปที่ ปิดเครื่อง

  • หากปิดกล้องขณะกำลังบันทึกภาพไปยังการ์ด ไฟแสดงสถานะจะยังคงสว่างหรือกะพริบต่อไปอีกสักครู่ เมื่อบันทึกภาพเสร็จสิ้นแล้ว กล้องจะปิดโดยอัตโนมัติ

[การสื่อสารกับแบตเตอรี่ขัดข้อง แบตเตอรี่นี้แสดงโลโก้ Canon หรือไม่] แสดงขึ้น

  • อย่าใช้แบตเตอรี่แพ็คอื่นนอกเหนือจากแบตเตอรี่แพ็ครุ่น LP-E12 ของแท้จากแคนนอน
  • ถอดและติดตั้งแบตเตอรี่ใหม่อีกครั้ง ()
  • หากขั้วไฟฟ้าไม่สะอาด ให้ทำความสะอาดด้วยผ้านุ่ม

พลังงานแบตเตอรี่หมดลงอย่างรวดเร็ว

  • ใช้แบตเตอรี่ที่ชาร์จไฟจนเต็ม ()
  • ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่อาจลดลง หากประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ต่ำ ให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่
  • จำนวนภาพที่ถ่ายได้จะลดลงเมื่อมีการทำงานใดๆ ต่อไปนี้:

    • การกดปุ่มชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่งเป็นระยะเวลานาน
    • ใช้ AF บ่อยครั้ง แต่ไม่มีการถ่ายภาพ
    • การใช้ระบบลดภาพสั่นของเลนส์
    • การใช้ฟังก์ชั่นการสื่อสารแบบไร้สาย

กล้องจะปิดเครื่องเอง

  • ระบบปิดสวิตซ์อัตโนมัติกำลังทำงาน หากต้องการปิดใช้งานระบบปิดสวิตช์อัตโนมัติ ให้ตั้งค่า [ปิดสวิตช์อัตโนมัติ] ใน [ตั้งค่า: ประหยัดพลังงาน] เป็น [ไม่ใช้งาน] ()
  • แม้ว่าจะตั้งค่า [ปิดสวิตช์อัตโนมัติ] เป็น [ไม่ใช้งาน] หน้าจอจะยังคงปิดลงหลังจากที่ไม่ได้ใช้งานกล้องเป็นเวลาที่ตั้งไว้ใน [ปิดหน้าจอ] (ทั้งที่กล้องยังเปิดอยู่)
  • ตั้งค่า [ตั้งค่า: โหมด Eco] เป็น [ปิด]

ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายภาพ

ไม่สามารถติดตั้งเลนส์ได้

  • ในการติดตั้งเลนส์ EF/EF-S คุณจะต้องใช้ตัวแปลงเมาท์ กล้องไม่สามารถใช้กับเลนส์ RF ได้ ()

ไม่สามารถถ่ายภาพหรือบันทึกภาพได้

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าใส่การ์ดอย่างถูกต้อง ()
  • เลื่อนสวิตช์ป้องกันการเขียนของการ์ดไปที่การตั้งค่าเขียน/ลบ ()
  • หากการ์ดเต็ม ให้เปลี่ยนการ์ดหรือลบภาพที่ไม่จำเป็นทิ้งเพื่อให้มีที่ว่าง (, )
  • จะไม่สามารถถ่ายภาพได้ หากจุดโฟกัสอัตโนมัติเป็นสีส้มในขณะที่คุณพยายามที่จะถ่ายภาพนิ่งหรือบันทึกภาพเคลื่อนไหว กดปุ่มชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่งอีกครั้งเพื่อโฟกัสใหม่โดยอัตโนมัติ หรือโฟกัสด้วยตนเอง (, )

ไม่สามารถใช้งานการ์ดได้

  • หากมีข้อความแสดงข้อผิดพลาดของการ์ดแสดงขึ้น โปรดดู การถอด

ข้อความแสดงข้อผิดพลาดจะแสดงขึ้นเมื่อใส่การ์ดในกล้องตัวอื่น

  • เนื่องจากการ์ด SDXC จะถูกฟอร์แมตแบบ exFAT หากคุณฟอร์แมตการ์ดด้วยกล้องนี้ แล้วใส่เข้าไปในกล้องตัวอื่น ข้อผิดพลาดอาจแสดงขึ้นและอาจไม่สามารถใช้งานการ์ดได้

ภาพหลุดโฟกัสหรือเบลอ

  • ตั้งค่า [การถ่ายภาพ: โหมดโฟกัส] เป็น [AF] ()
  • เมื่อใช้เลนส์ที่มีสวิตซ์เลือกโหมดโฟกัส ให้ปรับสวิตซ์ไปที่ AF ()
  • กดปุ่มชัตเตอร์ () เบาๆ เพื่อป้องกันไม่ให้กล้องสั่น ()
  • ตั้งค่า [โหมด IS] ใน [การถ่ายภาพ: โหมด IS (ระบบป้องกันภาพสั่น)] เป็น [เปิด] ()
  • สำหรับเลนส์ที่มีระบบป้องกันภาพสั่น ให้ปรับสวิตช์กันสั่นไปที่ เปิดเครื่อง
  • ความเร็วชัตเตอร์อาจลดลงเมื่ออยู่ในสภาวะแสงน้อย ใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่เร็วขึ้น () ตั้งค่าความไวแสง ISO ที่สูงขึ้น () ใช้แฟลช () หรือใช้ขาตั้งกล้อง
  • โปรดดู การลดภาพเบลอ

ไม่สามารถล็อคโฟกัสและจัดองค์ประกอบภาพได้

  • ปรับการโฟกัสอัตโนมัติไปที่ AF ครั้งเดียว

    การถ่ายภาพด้วยการล็อคโฟกัสจะไม่สามารถทำได้เมื่อใช้ Servo AF ()

ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องช้า

  • ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงอาจช้าลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะต่างๆ เช่น อุณหภูมิแวดล้อม ระดับแบตเตอรี่ การลดแสงวูบวาบ ความเร็วชัตเตอร์ ค่ารูรับแสง สภาพของวัตถุ ความสว่าง การโฟกัสอัตโนมัติ ชนิดของเลนส์ การใช้แฟลช และการตั้งค่าการถ่ายภาพ สำหรับรายละเอียด โปรดดู โหมดขับเคลื่อน

จำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุดขณะถ่ายภาพต่อเนื่องลดลง

แม้จะเปลี่ยนการ์ดแล้ว แต่จำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุดที่แสดงสำหรับการถ่ายต่อเนื่องยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

  • เมื่อคุณเปลี่ยนการ์ดจำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุดที่แสดงจะไม่เปลี่ยนแปลง ถึงแม้ว่าการ์ดที่เปลี่ยนจะเป็นการ์ดความเร็วสูง จำนวนการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุดที่แสดงไว้ตามตารางใน ขนาดไฟล์ของภาพนิ่ง / จำนวนภาพที่ถ่ายได้ / จำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุดของการถ่ายภาพต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับการ์ดทดสอบมาตรฐานของแคนนอน และจำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุดที่แท้จริงจะสูงขึ้นสำหรับการ์ดที่มีความเร็วในการเขียนสูง ด้วยเหตุนี้ จำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุดโดยประมาณอาจแตกต่างจากจำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุดที่แท้จริง

แม้ว่าจะปรับลดการชดเชยแสง ภาพที่ออกมายังสว่างอยู่

  • ตั้งค่า [การถ่ายภาพ: ปรับแสงเหมาะสมอัตโนมัติ] เป็น [ไม่ใช้งาน] () เมื่อตั้งค่าเป็น [ต่ำ], [มาตรฐาน] หรือ [สูง] แม้ว่าคุณจะตั้งค่าการชดเชยแสงหรือการชดเชยระดับแสงแฟลชที่ลดลง ภาพก็อาจออกมาสว่าง

ไม่สามารถตั้งค่าปรับชดเชยแสงได้ในขณะที่ตั้งเป็นตั้งค่าระดับแสงด้วยตนเองและ ISO อัตโนมัติไว้พร้อมกัน

ตัวเลือกการแก้ไขความคลาดเคลื่อนของเลนส์ไม่แสดงขึ้นมาทั้งหมด

  • แม้ว่า [แก้ไขสีคลาดเคลื่อน] และ [แก้ไขการเลี้ยวเบน] จะไม่แสดงขึ้นเมื่อตั้งค่า [ตัวปรับคุณภาพเลนส์ดิจิตอล] เป็น [ใช้งาน] ฟังก์ชั่นทั้งสองจะถูกนำไปใช้ในการถ่ายภาพ เช่นเดียวกับเมื่อตั้งค่าเป็น [ใช้งาน]
  • ระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว [ตัวปรับคุณภาพเลนส์ดิจิตอล], [แก้ไขการเลี้ยวเบน] และ [แก้ไขความคลาดส่วน] จะไม่แสดงขึ้น

แฟลชในตัวกล้องไม่ทำงาน

  • การถ่ายภาพด้วยแฟลชอาจถูกปิดใช้งานชั่วคราวเพื่อปกป้องหัวแฟลช หากมีการใช้แฟลชในตัวกล้องซ้ำหลายครั้งในระยะเวลาสั้นๆ

Speedlite ภายนอกไม่ทำงาน

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ติดตั้ง Speedlite ภายนอกเข้ากับกล้องอย่างมั่นคง

Speedlite มักจะยิงแสงเต็มกำลังไฟ

  • หากคุณใช้ชุดแฟลชอื่นนอกเหนือจาก Speedlite ซีรี่ส์ EL/EX แฟลชจะยิงแสงเต็มกำลังไฟเสมอ ()
  • แฟลชจะยิงแสงเต็มกำลังไฟเสมอเมื่อ [โหมดวัดแสงแฟลช] ในการตั้งค่าระบบส่วนตัวของแฟลชภายนอกถูกตั้งค่าเป็น [วัดแสงแฟลช TTL] (แฟลชอัตโนมัติ) ()

ไม่สามารถตั้งค่าชดเชยระดับแสงแฟลชสำหรับ Speedlite ภายนอก

  • หากตั้งค่าชดเชยระดับแสงแฟลชกับ Speedlite ภายนอกแล้ว จะไม่สามารถตั้งค่าปริมาณการชดเชยด้วยกล้องได้ เมื่อยกเลิกการชดเชยระดับแสงแฟลชของ Speedlite (ตั้งเป็น 0) จึงจะสามารถตั้งค่าการชดเชยระดับแสงแฟลชด้วยกล้องได้

การใช้แฟลชในโหมด โปรแกรมระดับแสงอัตโนมัติ/ระบุค่ารูรับแสง ทำให้ความเร็วชัตเตอร์ลดลง

  • เพื่อให้ได้ค่าแสงมาตรฐานสำหรับวัตถุและฉากหลัง ความเร็วชัตเตอร์จะลดลงโดยอัตโนมัติ (การถ่ายภาพแบบใช้แฟลชความเร็วต่ำ) สำหรับภาพถ่ายภายใต้แสงน้อยในฉากกลางคืนหรือที่มีฉากหลังคล้ายกัน เพื่อหลีกเลี่ยงความเร็วชัตเตอร์ต่ำ ให้ตั้งค่า [แฟลชความเร็วต่ำ] ใน [การถ่ายภาพ: ควบคุมแฟลช] เป็น [1/200-1/60 วินาที อัตโนมัติ] หรือ [1/200 วินาที (คงที่)] ()

ค่าแสงที่กำหนดเปลี่ยนแปลงเมื่อฉันถ่ายภาพด้วย ISO อัตโนมัติแบบใช้แฟลช

  • เมื่อมีความเสี่ยงที่จะเปิดรับแสงมากเกินไปสำหรับการถ่ายภาพแบบใช้แฟลช ความเร็วชัตเตอร์ หรือความไวแสง ISO จะถูกปรับโดยอัตโนมัติเพื่อลดการสูญเสียรายละเอียดในแสงจ้า และถ่ายภาพด้วยการเปิดรับแสงมาตรฐาน ในการถ่ายภาพแฟลชด้วยเลนส์บางชนิด ความเร็วชัตเตอร์และความไวแสง ISO ที่แสดงเมื่อคุณกดปุ่มชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่งอาจไม่เข้ากับการตั้งค่าจริงที่ใช้อยู่ ซึ่งอาจดัดแปลงความสว่างของพื้นหลังที่อยู่นอกระยะแฟลช
  • เพื่อหลีกเลี่ยงการถ่ายภาพด้วยความเร็วชัตเตอร์หรือความไวแสง ISO ที่แตกต่างจากที่แสดงเมื่อคุณกดปุ่มชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่งในโหมด การถ่ายภาพสร้างสรรค์ ให้ถ่ายภาพด้วยความไวแสง ISO ที่ตั้งค่าด้วยตนเอง

ไม่สามารถถ่ายภาพด้วยรีโมทคอนโทรลได้

  • เมื่อถ่ายภาพนิ่ง ให้ตั้งค่าโหมดขับเคลื่อนเป็น ตั้งเวลา 10 วินาที/รีโมทคอนโทรล หรือ ตั้งเวลา 2 วินาที/รีโมทคอนโทรล () ส่วนในการบันทึกภาพเคลื่อนไหว ให้ตั้งค่า [การถ่ายภาพ: รีโมทคอนโทรล] เป็น [ใช้งาน] ()
  • ตรวจสอบตำแหน่งสวิตซ์ตั้งเวลาถ่ายภาพของรีโมทคอนโทรล
  • หากคุณใช้รีโมทคอนโทรลแบบไร้สาย รุ่น BR-E1 โปรดดู รีโมทคอนโทรลแบบไร้สาย รุ่น BR-E1
  • ในการใช้รีโมทคอนโทรลสำหรับการบันทึกภาพเคลื่อนไหวแบบย่นเวลา โปรดดู ภาพเคลื่อนไหวแบบย่นเวลา

ไอคอน [เตือนอุณหภูมิสีขาว] สีขาวหรือ [เตือนอุณหภูมิสีแดง] สีแดงแสดงขึ้นในการถ่ายภาพนิ่ง

  • ไอคอนนี้แสดงว่าอุณหภูมิภายในตัวกล้องเพิ่มสูง คุณภาพของภาพสำหรับภาพนิ่งอาจแย่ลง เมื่อไอคอน [เตือนอุณหภูมิสีขาว] สีขาวแสดงขึ้น การแสดงไอคอน [เตือนอุณหภูมิสีแดง] สีแดงบ่งบอกว่าการถ่ายภาพจะหยุดลงโดยอัตโนมัติในไม่ช้า ()

ไม่สามารถตั้งค่าเป็น ISO 100 หรือไม่สามารถเลือกขยายความไวแสง ISO ได้ในการถ่ายภาพนิ่ง

  • ความไวต่ำสุดในขอบเขตความไวแสง ISO คือ ISO 200 เมื่อตั้งค่า [การถ่ายภาพ: เน้นโทนภาพบริเวณสว่าง] เป็น [ใช้งาน] หรือ [เพิ่มประสิทธิภาพ]
  • ความไวแสง ISO แบบขยาย (H) ไม่สามารถใช้งานได้เมื่อตั้งค่า [การถ่ายภาพ: เน้นโทนภาพบริเวณสว่าง] เป็น [ใช้งาน] หรือ [เพิ่มประสิทธิภาพ] แม้ว่าจะตั้งค่า [ขยายความไวแสง ISO] เป็น [1:เปิด] ใน [ตั้งค่า: ตั้งค่าระบบส่วนตัว (C.Fn)]

ไอคอน [เตือนอุณหภูมิสีแดง] สีแดงแสดงขึ้นระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว

  • ไอคอนนี้แสดงว่าอุณหภูมิภายในตัวกล้องเพิ่มสูง หากไอคอน [เตือนอุณหภูมิสีแดง] สีแดงแสดงขึ้น บ่งบอกว่าการบันทึกภาพเคลื่อนไหวจะหยุดลงโดยอัตโนมัติในไม่ช้า ()

ไอคอน [ไอคอนขีดจำกัดความร้อนสำหรับการบันทึกภาพเคลื่อนไหว] สีแดงจะแสดงขึ้นมา

  • หากกล้องร้อนจัดเกินไปชั่วขณะระหว่างการบันทึก 4K เป็นระยะเวลานาน [ไอคอนขีดจำกัดความร้อนสำหรับการบันทึกภาพเคลื่อนไหว] จะแสดงขึ้น และการบันทึกจะหยุด ในขณะนี้การบันทึกภาพเคลื่อนไหวจะไม่สามารถใช้งานได้ แม้ว่าคุณจะกดปุ่มถ่ายภาพเคลื่อนไหวก็ตาม

    ทำตามคำแนะนำการใช้งานที่แสดงขึ้น คุณอาจจะตั้งค่าขนาดการบันทึกภาพเคลื่อนไหวเป็นตัวเลือกอื่นๆ ที่ไม่ใช่ [4K23.98fps] หรือ [4K25.00fps] หรือปิดกล้องเพื่อปล่อยให้กล้องเย็นลงก่อนที่จะทำการบันทึกต่อ

การบันทึกภาพเคลื่อนไหวหยุดลงเอง

  • หากความเร็วในการเขียนของการ์ดช้า การบันทึกภาพเคลื่อนไหวอาจหยุดลงโดยอัตโนมัติ สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับการ์ดที่สามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้ โปรดดู ความต้องการด้านประสิทธิภาพของการ์ด (การบันทึกภาพเคลื่อนไหว) หากต้องการตรวจสอบความเร็วในการเขียนของการ์ด โปรดดูข้อมูลจากเว็บไซต์ของผู้ผลิตการ์ด ฯลฯ
  • หากคุณบันทึกภาพเคลื่อนไหวเป็นเวลา 29 นาที 59 วินาที การบันทึกภาพเคลื่อนไหวจะหยุดลงโดยอัตโนมัติ

ไม่สามารถตั้งค่าความไวแสง ISO สำหรับการบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้

  • ความไวแสง ISO จะถูกตั้งค่าโดยอัตโนมัติในโหมดการถ่ายภาพ [ภาพเคลื่อนไหว] ในโหมด [ภาพเคลื่อนไหวรับแสงเอง] คุณสามารถตั้งค่าความไวแสง ISO ได้ด้วยตนเอง ()

ความไวแสง ISO ที่ตั้งค่าด้วยตนเองเปลี่ยนไปเมื่อสลับเป็นการบันทึกภาพเคลื่อนไหว

  • สำหรับการถ่ายภาพนิ่ง ความไวแสง ISO ถูกตั้งค่าตาม [ความไวแสง ISO] ใน [การถ่ายภาพ: การถ่ายภาพการตั้งค่าความไวแสง ISO] () และสำหรับการบันทึกภาพเคลื่อนไหว ตั้งค่าตาม [ความไวแสง ISO] ใน [การถ่ายภาพ: ภาพเคลื่อนไหวการตั้งค่าความไวแสง ISO] ()

ไม่สามารถตั้งค่าเป็น ISO 100 หรือไม่สามารถเลือกขยายความไวแสง ISO ได้ในระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว

  • ตรวจสอบการตั้งค่า [ความไวแสง ISO] ใน [การถ่ายภาพ: ภาพเคลื่อนไหวการตั้งค่าความไวแสง ISO]
  • ความไวแสง ISO แบบขยายไม่สามารถใช้งานได้เมื่อตั้งค่า [การถ่ายภาพ: เน้นโทนภาพบริเวณสว่าง] เป็น [ใช้งาน]
  • ความไวต่ำสุดในขอบเขตความไวแสง ISO คือ ISO 200 เมื่อตั้งค่า [การถ่ายภาพ: เน้นโทนภาพบริเวณสว่าง] เป็น [ใช้งาน]
  • H (ความไวแสง ISO ที่ขยายสูงขึ้น) ไม่สามารถใช้งานได้ (ไม่แสดง) ในการบันทึกภาพเคลื่อนไหว 4K

การเปิดรับแสงเปลี่ยนไปในระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว

  • หากคุณเปลี่ยนความเร็วชัตเตอร์หรือค่ารูรับแสงในระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว ความเปลี่ยนแปลงในการเปิดรับแสงอาจถูกบันทึก
  • แนะนำให้ทดสอบบันทึกภาพเคลื่อนไหวสักสองสามคลิป หากคุณตั้งใจจะทำการซูมในระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว การซูมขณะที่คุณบันทึกภาพเคลื่อนไหวอาจทำให้การเปิดรับแสงเปลี่ยนไป หรือมีการบันทึกเสียงเลนส์ ระดับเสียงไม่สม่ำเสมอ หรือสูญเสียการโฟกัส

ภาพกะพริบหรือเส้นลายทางแนวนอนปรากฏขึ้นในระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว

  • การกะพริบ เส้นลายทางแนวนอน (จุดรบกวน) หรือค่าแสงที่ไม่สม่ำเสมออาจเกิดจากแสงไฟฟลูออเรสเซนต์ แสงไฟ LED หรือแหล่งแสงอื่นๆ ในระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว รวมถึงกล้องอาจบันทึกการเปลี่ยนแปลงของค่าแสง (ความสว่าง) หรือโทนสีอีกด้วย การใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่ต่ำลงอาจช่วยลดปัญหาได้ในโหมดการถ่ายภาพ [ภาพเคลื่อนไหว] ปัญหานี้อาจเห็นได้ชัดขึ้นในการบันทึกภาพเคลื่อนไหวแบบย่นเวลา

วัตถุดูบิดเบี้ยวในระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว

  • หากคุณขยับกล้องไปทางซ้ายหรือขวา (แพนกล้อง) หรือถ่ายภาพวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหว อาจทำให้ภาพดูบิดเบี้ยว

ฉันไม่สามารถถ่ายภาพนิ่งในระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว

  • ไม่สามารถถ่ายภาพนิ่งได้เมื่อตั้งค่าปุ่มโหมดเป็น ภาพเคลื่อนไหว ก่อนการถ่ายภาพนิ่ง ปรับปุ่มโหมดไปที่โหมดถ่ายภาพอื่นนอกเหนือจาก ภาพเคลื่อนไหว

ปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติไร้สาย

ไม่สามารถจับคู่กับสมาร์ทโฟน

  • ใช้สมาร์ทโฟนที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของ Bluetooth เวอร์ชั่น 4.1 หรือใหม่กว่า
  • เปิด Bluetooth จากหน้าจอการตั้งค่าของสมาร์ทโฟน
  • การจับคู่กับกล้องไม่สามารถทำได้จากหน้าจอการตั้งค่า Bluetooth ของสมาร์ทโฟน ติดตั้งแอป Camera Connect ที่กำหนดให้ใช้ (ไม่มีค่าใช้จ่าย) บนสมาร์ทโฟน ()
  • การจับคู่กับสมาร์ทโฟนที่จับคู่ไว้ก่อนหน้านี้ไม่สามารถทำได้หากข้อมูลการจับคู่ที่บันทึกไว้สำหรับกล้องตัวอื่นยังคงอยู่บนสมาร์ทโฟน ในกรณีนี้ ให้ลบการบันทึกข้อมูลของกล้องที่เก็บไว้ในการตั้งค่า Bluetooth บนสมาร์ทโฟนออกและลองจับคู่อีกครั้ง ()

ไม่สามารถตั้งค่าฟังก์ชั่น Wi-Fi

  • หากกล้องเชื่อมต่ออยู่กับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่นด้วยสายเชื่อมต่อ ฟังก์ชั่น Wi-Fi จะไม่สามารถตั้งค่าได้ ให้ถอดสายเชื่อมต่อออกก่อนทำการตั้งค่าฟังก์ชั่นใดๆ ()

ไม่สามารถใช้งานอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อด้วยสายเชื่อมต่อ

  • อุปกรณ์อื่นๆ เช่น คอมพิวเตอร์ ไม่สามารถใช้งานกับกล้อง โดยการเชื่อมต่อด้วยสายเชื่อมต่อ ขณะที่กล้องเชื่อมต่ออยู่กับอุปกรณ์ผ่าน Wi-Fi ยุติการเชื่อมต่อ Wi-Fi ก่อนที่จะใช้สายเชื่อมต่อ

การดำเนินการ เช่น การถ่ายภาพและการเล่นภาพ ไม่สามารถใช้งานได้

  • เมื่อสร้างการเชื่อมต่อ Wi-Fi แล้ว อาจไม่สามารถทำการใช้งาน เช่น การถ่ายภาพและเล่นภาพได้ ยุติการเชื่อมต่อ Wi-Fi จากนั้นจึงดำเนินการใช้งาน

ไม่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนอีกครั้ง

  • แม้ว่าจะใช้งานของกล้องและสมาร์ทโฟนเครื่องเดิม หากคุณเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าหรือเลือกการตั้งค่าอื่น อาจไม่สามารถทำการเชื่อมต่ออีกครั้งได้แม้ว่าได้เลือก SSID เดียวกันแล้ว ในกรณีนี้ ให้ลบการตั้งค่าการเชื่อมต่อกล้องออกจากการตั้งค่า Wi-Fi บนสมาร์ทโฟนและสร้างการเชื่อมต่ออีกครั้ง
  • การเชื่อมต่ออาจไม่ได้ถูกสร้างขึ้น หาก Camera Connect กำลังทำงานอยู่เมื่อคุณกำหนดการตั้งค่าการเชื่อมต่อใหม่ ในกรณีนี้ ให้ออกจาก Camera Connect สักครู่แล้วเริ่มการทำงานใหม่

ปัญหาในการใช้งาน

ไม่สามารถทำการใช้งานแบบสัมผัสได้

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตั้งค่า [ตั้งค่า: แบบสัมผัส] เป็น [มาตรฐาน] หรือ [ไว] ()

ปุ่มหรือปุ่มหมุนของกล้องไม่ทำงานอย่างที่คาดหวังไว้

  • ตรวจสอบการตั้งค่า [ตั้งการควบคุมด้วยตนเอง] ใน [ตั้งค่า: ตั้งค่าระบบส่วนตัว (C.Fn)] ()
  • ในการบันทึกภาพเคลื่อนไหว ให้ตรวจสอบการตั้งค่า [การถ่ายภาพ: หน้าที่ปุ่มชัตเตอร์ของภาพเคลื่อนไหว] ()

ปัญหาในการแสดงผล

หน้าจอเมนูแสดงแถบและรายการน้อยลง

  • บางแท็บและบางรายการจะไม่แสดงในโหมดถ่ายภาพพื้นฐานหรือการบันทึกภาพเคลื่อนไหว

จอแสดงผลเริ่มต้นด้วยเมนูส่วนตัว [เมนูส่วนตัว] หรือแสดงแถบ [เมนูส่วนตัว] เพียงอย่างเดียว

  • มีการตั้งค่า [การแสดงเมนู] บนแถบ [เมนูส่วนตัว] เป็น [แสดงจากแถบเมนูส่วนตัว] หรือ [แสดงแถบเมนูส่วนตัวเท่านั้น] ตั้งค่าเป็น [แสดงแบบปกติ] ()

อักขระตัวแรกของชื่อไฟล์เป็นขีดล่าง (“_”)

  • ตั้งค่า [การถ่ายภาพ: พิกัดสี] เป็น [sRGB] หากตั้งค่าเป็น [Adobe RGB] อักขระตัวแรกจะเป็นขีดล่าง ()

ชื่อไฟล์ขึ้นต้นด้วย “MVI_”

  • นี่คือไฟล์ภาพเคลื่อนไหว ()

ลำดับหมายเลขไฟล์ไม่เริ่มต้นที่ 0001

  • หากการ์ดมีภาพที่บันทึกอยู่แล้ว หมายเลขภาพอาจไม่เริ่มต้นจาก 0001 ()

ข้อมูลวันที่และเวลาที่ถ่ายภาพไม่ถูกต้อง

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตั้งค่าวันที่และเวลาที่ถูกต้อง ()
  • ตรวจสอบไทม์โซนและการปรับเวลาในฤดูร้อน ()

วันที่และเวลาไม่ปรากฏบนภาพ

  • วันที่และเวลาที่ถ่ายภาพไม่ปรากฏบนภาพ วันที่และเวลาที่ถ่ายภาพถูกจัดเก็บเป็นข้อมูลการถ่ายภาพไว้ในข้อมูลภาพ เมื่อคุณพิมพ์ภาพถ่าย ข้อมูลนี้สามารถใช้เพื่อใส่วันที่และเวลา ()

[###] แสดงขึ้น

  • หากจำนวนภาพถ่ายที่บันทึกบนการ์ดเกินกว่าจำนวนภาพที่กล้องสามารถแสดงได้ [###] จะแสดงขึ้น

หน้าจอแสดงภาพไม่ชัดเจน

  • หากหน้าจอสกปรก ให้ใช้ผ้านุ่มในการทำความสะอาด
  • การแสดงผลของหน้าจออาจดูช้าลงเล็กน้อยในที่อุณหภูมิต่ำหรืออาจดูดำมืดในที่อุณหภูมิสูง แต่จะกลับสู่สภาวะปกติที่อุณหภูมิห้อง

ปัญหาในการเล่นภาพ

มีกล่องสีแดงแสดงอยู่บนภาพ

  • มีการตั้งค่า [การเล่นภาพ: แสดงจุด AF] เป็น [ใช้งาน] ()

จุด AF จะไม่แสดงระหว่างที่ดูภาพ

  • จุด AF จะไม่แสดงขึ้นเมื่อดูภาพชนิดต่อไปนี้:

    • ภาพที่ถ่ายในโหมด ฉากพิเศษ: ถ่ายกลางคืนแบบมือถือ ควบคุมแสงพื้นหลัง HDR
    • ภาพที่ถ่ายในโหมด ฟิลเตอร์สร้างสรรค์: ศิลปะมาตรฐาน HDR ศิลปะ สีสดใส HDR ศิลปะ คมเข้ม HDR ศิลปะ ลายนูน HDR
    • ภาพที่ถ่ายโดยใช้การลดจุดรบกวนด้วยการถ่ายหลายภาพ
    • ภาพที่ครอบตัด

ไม่สามารถลบภาพได้

  • หากภาพได้รับการป้องกัน จะไม่สามารถลบภาพได้ ()

ไม่สามารถเล่นภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวได้

  • กล้องนี้อาจไม่สามารถเล่นภาพที่ถ่ายด้วยกล้องอื่น
  • ภาพเคลื่อนไหวที่แก้ไขในคอมพิวเตอร์จะไม่สามารถเล่นด้วยกล้องได้

เฉพาะภาพบางภาพเท่านั้นที่สามารถเล่นได้

  • มีการกรองภาพไว้สำหรับการเล่นภาพด้วย [การเล่นภาพ: ตั้งเงื่อนไขค้นหาภาพ] () ล้างเงื่อนไขค้นหาภาพ

ได้ยินเสียงกลไกหรือเสียงการทำงานของกล้องในระหว่างการเล่นภาพเคลื่อนไหว

  • ไมโครโฟนในตัวกล้องจะบันทึกเสียงกลไกของเลนส์หรือเสียงการทำงานของกล้อง/เลนส์ด้วย หากทำการใช้งาน AF หรือใช้งานกล้องระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว ในกรณีนี้ การใช้ไมโครโฟนภายนอกอาจลดเสียงเหล่านี้ หากเสียงยังคงรบกวนเมื่อใช้ไมโครโฟนภายนอก การถอดไมโครโฟนภายนอกออกจากกล้องและวางไว้ห่างจากกล้องและเลนส์อาจได้ผลดีกว่า ()

ภาพเคลื่อนไหวค้างเป็นช่วงๆ

  • การเปลี่ยนแปลงระดับแสงที่เด่นชัดระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหวแบบเปิดรับแสงอัตโนมัติอาจทำให้การบันทึกหยุดลงชั่วขณะจนกว่าความสว่างจะคงที่ ในกรณีนี้ ให้บันทึกในโหมด [ภาพเคลื่อนไหวรับแสงเอง] ()

ไม่มีภาพปรากฏบนโทรทัศน์

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตั้งค่า [ตั้งค่า: ระบบวิดีโอ] เป็น [สำหรับ NTSC] หรือ [สำหรับ PAL] อย่างถูกต้องสำหรับระบบวิดีโอของโทรทัศน์ของคุณ
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เสียบปลั๊กสาย HDMI เข้าไปจนสุดแล้ว ()

มีไฟล์ภาพเคลื่อนไหวหลายไฟล์สำหรับการบันทึกภาพเคลื่อนไหวครั้งเดียว

  • หากขนาดไฟล์ภาพเคลื่อนไหวถึง 4 GB ไฟล์ภาพเคลื่อนไหวอีกไฟล์จะถูกสร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ () อย่างไรก็ตาม หากคุณใช้การ์ด SDXC ที่ฟอร์แมตด้วยกล้อง คุณจะสามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวเป็นไฟล์เดียวได้แม้ขนาดไฟล์เกิน 4 GB

ตัวอ่านการ์ดตรวจหาการ์ดไม่พบ

  • ขึ้นอยู่กับตัวอ่านการ์ดที่ใช้และระบบปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์ อาจทำให้ไม่สามารถตรวจหาการ์ด SDXC ได้อย่างถูกต้อง ในกรณีนี้ ให้เชื่อมต่อกล้องเข้ากับคอมพิวเตอร์ด้วยสายเชื่อมต่อ (แยกจำหน่าย) และใช้ EOS Utility (ซอฟต์แวร์ EOS, ) หรือเชื่อมต่อกล้องเข้ากับคอมพิวเตอร์ผ่าน Wi-Fi () เพื่อนำเข้าภาพบนกล้อง

ไม่สามารถปรับขนาดภาพได้

  • คุณไม่สามารถปรับขนาดภาพ JPEG เล็ก 2 และ RAW ด้วยกล้องนี้ได้ ()

ไม่สามารถตัดภาพได้

  • คุณไม่สามารถครอบตัดภาพ RAW ด้วยกล้องนี้ได้ ()

จุดแสงปรากฏขึ้นบนภาพ

  • จุดแสงสีขาว สีแดง หรือสีน้ำเงินอาจปรากฏในภาพที่ถ่าย หากเซนเซอร์ได้รับผลกระทบจากรังสีคอสมิกหรือปัจจัยที่ใกล้เคียง ลักษณะที่ปรากฏเหล่านั้นอาจลดลงได้โดยดำเนินการ [ทำความสะอาดเดี๋ยวนี้ทำความสะอาดเดี๋ยวนี้] ภายใต้ [ตั้งค่า: ทำความสะอาดเซนเซอร์] ()

ปัญหาในการทำความสะอาดเซนเซอร์

มีเสียงชัตเตอร์ในระหว่างที่ทำความสะอาดเซนเซอร์

  • แม้ว่าจะมีเสียงกลไกจากชัตเตอร์ในระหว่างการทำความสะอาดหลังจากเลือก [ทำความสะอาดเดี๋ยวนี้ทำความสะอาดเดี๋ยวนี้] ใน [ตั้งค่า: ทำความสะอาดเซนเซอร์] แต่จะไม่มีการบันทึกภาพลงในการ์ด ()

การทำความสะอาดเซนเซอร์แบบอัตโนมัติไม่ทำงาน

  • การปรับสวิตซ์เปิด/ปิดกล้อง เปิดเครื่อง/ปิดเครื่อง ซ้ำไปมาในช่วงเวลาสั้นๆ อาจทำให้ไอคอน [ทำความสะอาดเดี๋ยวนี้] ไม่แสดงขึ้น ()

ปัญหาในการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์

ไม่สามารถถ่ายโอนภาพไปยังคอมพิวเตอร์

  • ติดตั้ง EOS Utility (ซอฟต์แวร์ EOS) บนคอมพิวเตอร์ ()
  • หากกล้องมีการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi แล้ว กล้องจะไม่สามารถสื่อสารกับคอมพิวเตอร์ใดๆ โดยใช้สายเชื่อมต่อได้ (แยกจำหน่าย)

การสื่อสารระหว่างกล้องที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ไม่ทำงาน

  • เมื่อใช้งาน EOS Utility (ซอฟต์แวร์ EOS) ให้ตั้งค่า [การถ่ายภาพ: วีดีโอไทม์แลปส์] เป็น [ไม่ใช้งาน] ()