ข้อแนะนำในการแก้ปัญหา
- ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน
- ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายภาพ
- ปัญหาในการสื่อสาร
- ปัญหาในการใช้งาน
- ปัญหาในการแสดงผล
- ปัญหาในการเล่นภาพ
- ปัญหาในการทำความสะอาดเซนเซอร์
- ปัญหาในการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์
- ปัญหาเกี่ยวกับฐานเสียบอเนกประสงค์
หากประสบปัญหาในการใช้กล้อง ให้อ้างอิงข้อแนะนำในการแก้ปัญหานี้ก่อน หากข้อแนะนำในการแก้ปัญหานี้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ให้นำกล้องไปยังศูนย์บริการแคนนอนใกล้บ้าน
ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน
ไม่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ด้วยแท่นชาร์จแบตเตอรี่
- แท่นชาร์จแบตเตอรี่รุ่น LC-E19 ได้รับการออกแบบมาเฉพาะสำหรับแบตเตอรี่แพ็ครุ่น LP-E19
- ในกรณีที่มีปัญหาในการชาร์จหรือแท่นชาร์จ โปรดดู การชาร์จแบตเตอรี่
หลอดไฟของแท่นชาร์จกะพริบด้วยความเร็วสูง
- หาก (1) แท่นชาร์จแบตเตอรี่หรือแบตเตอรี่มีปัญหา หรือ (2) การอ่านข้อมูลแบตเตอรี่ล้มเหลว (กับชุดแบตเตอรี่ที่ไม่ใช่ของแคนนอน) ระบบการป้องกันจะทำการหยุดชาร์จและหลอดไฟของแท่นชาร์จจะกะพริบเป็นสีส้มอย่างรวดเร็วแบบต่อเนื่อง ในกรณีที่ (1) ให้ถอดปลั๊กไฟของแท่นชาร์จออกจากเต้ารับไฟฟ้า ถอดแบตเตอรี่ออกแล้วใส่ใหม่ รอสักครู่ จากนั้นเสียบปลั๊กไฟเข้ากับเต้ารับไฟฟ้าอีกครั้ง หากปัญหายังคงมีอยู่ ให้นำกล้องไปยังศูนย์บริการแคนนอนใกล้บ้าน
หลอดไฟของแท่นชาร์จไม่กะพริบ
- เพื่อความปลอดภัย แบตเตอรี่ร้อนหรือเย็นที่ใส่เข้าไปในแท่นชาร์จจะไม่ได้รับการชาร์จ และไฟแสดงสถานะยังคงดับอยู่ ในกรณีนี้ ปล่อยให้แบตเตอรี่ปรับเข้ากับอุณหภูมิแวดล้อมก่อนที่จะพยายามชาร์จอีกครั้ง หากอุณหภูมิของแบตเตอรี่ระหว่างการชาร์จสูงขึ้นไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ การชาร์จจะหยุดลงโดยอัตโนมัติ (หลอดไฟกะพริบ) การชาร์จจะเริ่มใหม่โดยอัตโนมัติเมื่ออุณหภูมิของแบตเตอรี่ลดลง
ไม่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ด้วยอะแดปเตอร์ไฟฟ้า USB (แยกจำหน่าย)
- แบตเตอรี่จะไม่ได้รับการชาร์จขณะปรับสวิตช์เปิด/ปิดกล้องไปที่ อย่างไรก็ตาม แบตเตอรี่จะถูกชาร์จระหว่างการปิดสวิตช์อัตโนมัติ
- เมื่อมีการใช้งานกล้อง การชาร์จจะหยุดลง
ไฟแสดงสถานะกะพริบในระหว่างการชาร์จด้วยอะแดปเตอร์ไฟฟ้า USB
- ในกรณีที่เกิดปัญหาในการชาร์จ ไฟแสดงสถานะการชาร์จจะกะพริบเป็นสีเขียว และตัวป้องกันระบบวงจรไฟฟ้าจะตัดระบบการชาร์จ ในกรณีนี้ ให้ถอดปลั๊กไฟ ทำการใส่แบตเตอรี่เข้าไปในแท่นชาร์จใหม่อีกครั้ง และรอประมาณ 2-3 นาที จากนั้นให้เสียบปลั๊กอีกครั้ง หากปัญหายังคงมีอยู่ ให้นำกล้องไปยังศูนย์บริการแคนนอนใกล้บ้าน
- หากแบตเตอรี่ร้อนหรือเย็น ไฟแสดงสถานะจะกะพริบเป็นสีเขียวและวงจรป้องกันจะหยุดการชาร์จ ในกรณีนี้ ปล่อยให้แบตเตอรี่ปรับเข้ากับอุณหภูมิแวดล้อมก่อนที่จะพยายามชาร์จอีกครั้ง
ไฟแสดงสถานะไม่สว่างขึ้นในระหว่างการชาร์จด้วยอะแดปเตอร์ไฟฟ้า USB
- ลองถอดและเสียบอะแดปเตอร์ไฟฟ้า USB อีกครั้ง
ไม่สามารถให้พลังงานกล้องด้วยอะแดปเตอร์ไฟฟ้า USB
- ตรวจสอบช่องใส่แบตเตอรี่ กล้องจะไม่ได้รับพลังงานหากไม่มีแบตเตอรี่แพ็ค
- ตรวจสอบระดับแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ เมื่อแบตเตอรี่หมด อะแดปเตอร์จะทำการชาร์จ ในกรณีนี้ ไม่มีการให้พลังงานกับกล้อง
กล้องไม่ทำงานแม้จะปรับสวิตช์เปิด/ปิดไปที่
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าใส่แบตเตอรี่ลงในกล้องอย่างถูกต้อง ()
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าปิดฝาครอบช่องใส่การ์ดแล้ว ()
- ชาร์จแบตเตอรี่ ()
ไฟแสดงสถานะยังคงสว่างหรือกะพริบแม้จะปรับสวิตช์เปิด/ปิดไปที่
- หากปิดกล้องขณะกำลังบันทึกภาพไปยังการ์ด ไฟแสดงสถานะจะยังคงสว่างหรือกะพริบต่อไปอีกสักครู่ เมื่อบันทึกภาพเสร็จสิ้นแล้ว กล้องจะปิดโดยอัตโนมัติ
[แบตเตอรี่นี้แสดงโลโก้ Canon หรือไม่] แสดงขึ้น
- ห้ามใช้แบตเตอรี่แพ็คอื่นๆ นอกเหนือจากแบตเตอรี่แพ็ค รุ่น LP-E19 ของแท้จากแคนนอน
- ถอดและติดตั้งแบตเตอรี่ใหม่อีกครั้ง ()
- หากขั้วไฟฟ้าไม่สะอาด ให้ทำความสะอาดด้วยผ้านุ่ม
พลังงานแบตเตอรี่หมดลงอย่างรวดเร็ว
- ใช้แบตเตอรี่ที่ชาร์จไฟจนเต็ม ()
- ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่อาจลดลง โปรดดู [: ข้อมูลแบตเตอรี่] เพื่อตรวจสอบระดับประสิทธิภาพในการชาร์จของแบตเตอรี่ () หากประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ต่ำ ให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่
-
จำนวนภาพที่ถ่ายได้จะลดลงเมื่อมีการทำงานใดๆ ต่อไปนี้:
- การกดปุ่มชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่งเป็นระยะเวลานาน
- การเปิดใช้งาน AF บ่อยๆ โดยไม่มีการถ่ายภาพ
- การใช้ GPS
- การใช้ระบบลดภาพสั่นของเลนส์
- การใช้ฟังก์ชั่นการสื่อสารแบบไร้สาย
- การใช้อุปกรณ์เสริมที่เข้ากันได้กับฐานเสียบอเนกประสงค์
กล้องจะปิดเครื่องเอง
- ระบบปิดสวิตซ์อัตโนมัติกำลังทำงาน หากต้องการปิดใช้งานระบบปิดสวิตช์อัตโนมัติ ให้ตั้งค่า [ปิดสวิตช์อัตโนมัติ] ใน [: ประหยัดพลังงาน] เป็น [ไม่ใช้งาน] ()
- แม้ว่าจะตั้งค่า [ปิดสวิตช์อัตโนมัติ] เป็น [ไม่ใช้งาน] หน้าจอและช่องมองภาพจะยังคงปิดลงหลังจากที่ไม่ได้ใช้งานกล้องเป็นเวลาที่ตั้งไว้ใน [ปิดหน้าจอ] หรือ [ปิดช่องมองภาพ] (ทั้งที่กล้องยังเปิดอยู่)
ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายภาพ
ไม่สามารถติดตั้งเลนส์ได้
- ในการติดตั้งเลนส์ EF หรือ EF-S คุณจะต้องใช้เมาท์อะแดปเตอร์ กล้องไม่สามารถใช้ร่วมกับเลนส์ EF-M ได้ ()
สามารถได้ยินเสียงรบกวนจากกล้องเมื่อเปิดกล้อง
- อาจได้ยินเสียงรบกวนจากไดร์ฟของกล้อง
ไม่สามารถถ่ายภาพหรือบันทึกภาพได้
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าใส่การ์ดอย่างถูกต้อง ()
- หากการ์ดเต็ม ให้เปลี่ยนการ์ดหรือลบภาพที่ไม่จำเป็นทิ้งเพื่อให้มีที่ว่าง (, )
- จะไม่สามารถถ่ายภาพได้ หากจุดโฟกัสอัตโนมัติเป็นสีส้มในขณะที่คุณพยายามที่จะโฟกัส กดปุ่มชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่งอีกครั้งเพื่อโฟกัสใหม่โดยอัตโนมัติ หรือโฟกัสด้วยตนเอง (, )
ไม่สามารถใช้งานการ์ดได้
- หากข้อความแสดงข้อผิดพลาดของการ์ดแสดงขึ้น โปรดดู การใส่/การถอดการ์ด และ รหัสข้อผิดพลาด
ภาพหลุดโฟกัสหรือเบลอ
- ปรับสวิตช์เลือกโหมดโฟกัสของเลนส์ไปที่ () สำหรับเลนส์ที่ไม่มีสวิตช์เลือกโหมดโฟกัส ให้ตั้งค่า [: โหมดโฟกัส] เป็น []
- กดปุ่มชัตเตอร์เบาๆ เพื่อป้องกันไม่ให้กล้องสั่น ()
- สำหรับเลนส์ที่มีระบบป้องกันภาพสั่น ให้ปรับสวิตช์กันสั่นไปที่
- ความเร็วชัตเตอร์อาจลดลงเมื่ออยู่ในสภาวะแสงน้อย ใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่เร็วขึ้น () ตั้งค่าความไวแสง ISO ที่สูงขึ้น () ใช้แฟลช () หรือใช้ขาตั้งกล้อง
ไม่สามารถล็อคโฟกัสและจัดองค์ประกอบภาพได้
- ตั้งค่าการทำงานของ AF เป็น AF ครั้งเดียว () การถ่ายภาพด้วยการล็อคโฟกัสจะไม่สามารถทำได้เมื่อใช้ Servo AF ()
ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องช้า
- การถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงอาจช้าลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่ อุณหภูมิแวดล้อม แสงวูบวาบ ความเร็วชัตเตอร์ ค่ารูรับแสง สภาพวัตถุ ความสว่าง การทำงานของ AF ชนิดของเลนส์ การใช้แฟลช การตั้งค่าการถ่ายภาพ และเงื่อนไขอื่นๆ สำหรับรายละเอียด โปรดดู การเลือกโหมดขับเคลื่อน หรือดู ขนาดไฟล์/จำนวนภาพถ่ายและจำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุด สำหรับภาพนิ่ง
จำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุดขณะถ่ายภาพต่อเนื่องลดลง
- การถ่ายภาพเป้าหมายที่ซับซ้อน เช่น ทุ่งหญ้า อาจส่งผลให้ไฟล์มีขนาดใหญ่ขึ้น และจำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุดจริงอาจต่ำกว่าหลักเกณฑ์ใน ขนาดไฟล์/จำนวนภาพถ่ายและจำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุด สำหรับภาพนิ่ง
แม้จะเปลี่ยนการ์ดแล้ว แต่จำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุดที่แสดงสำหรับการถ่ายต่อเนื่องยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
- จำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุดโดยประมาณที่แสดงในช่องมองภาพจะไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อคุณเปลี่ยนการ์ด แม้ว่าคุณจะเปลี่ยนเป็นการ์ดความเร็วสูงก็ตาม จำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุดที่ระบุใน ขนาดไฟล์/จำนวนภาพถ่ายและจำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุด สำหรับภาพนิ่งขึ้นอยู่กับการ์ดทดสอบมาตรฐานของแคนนอน และจำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุดจริงจะสูงกว่าสำหรับการ์ดที่มีความเร็วในการเขียนเร็วขึ้น ด้วยเหตุนี้ จำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุดโดยประมาณอาจแตกต่างจากจำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุดที่แท้จริง
บางตัวเลือกคุณภาพของภาพไม่สามารถใช้งานได้กับการถ่ายแบบครอบตัด
- ตัวเลือกคุณภาพของภาพ / / / จะไม่สามารถใช้งานได้เมื่อตั้งค่า [1.6x (ตัดขอบ)] หรือใช้เลนส์ RF-S/EF-S
การแสดงภาพความเร็วสูงไม่สามารถใช้ได้ในระหว่างการถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูง
- โปรดดูข้อกำหนดการแสดงภาพความเร็วสูงใน การแสดงภาพความเร็วสูง
ไม่สามารถตั้งค่าอัตราส่วนภาพได้
- ไม่สามารถตั้งค่าอัตราส่วนภาพได้สำหรับเลนส์ RF-S หรือ EF-S ([1.6x (ตัดขอบ)] จะถูกตั้งค่าโดยอัตโนมัติ)
- ไม่สามารถตั้งค่าอัตราส่วนภาพได้เมื่อตั้งค่า [: เพิ่มข้อมูลตัดขอบภาพ] เป็นตัวเลือกอื่นนอกเหนือจาก [ไม่ใช้งาน]
ไม่สามารถตั้งค่า ISO 100 ได้สำหรับการถ่ายภาพนิ่ง
- ความไวต่ำสุดในขอบเขตความไวแสง ISO คือ ISO 200 เมื่อตั้งค่า [: เน้นโทนภาพบริเวณสว่าง] เป็น [ใช้งาน] หรือ [เพิ่มประสิทธิภาพ]
ไม่สามารถเลือกความไวแสง ISO แบบขยายได้สำหรับการถ่ายภาพนิ่ง
- ความไวแสง ISO แบบขยายไม่สามารถใช้งานได้เมื่อตั้งค่า [: เน้นโทนภาพบริเวณสว่าง] เป็น [ใช้งาน] หรือ [เพิ่มประสิทธิภาพ]
- ความไวแสง ISO แบบขยายไม่สามารถใช้งานได้เมื่อตั้งค่า [: การถ่ายภาพ HDR (PQ)] เป็น [HDR PQ]
- ตรวจสอบการตั้งค่า [ขอบเขตไวแสง ISO] ภายใต้ [: การตั้งค่าความไวแสง ISO]
แม้ว่าจะปรับลดการชดเชยแสง ภาพที่ออกมายังสว่างอยู่
- ตั้งค่า [: ปรับแสงเหมาะสมอัตโนมัติ] เป็น [ไม่ใช้งาน] () เมื่อตั้งค่าเป็น [ต่ำ], [มาตรฐาน] หรือ [สูง] แม้ว่าคุณจะตั้งค่าการชดเชยแสงหรือการชดเชยระดับแสงแฟลชที่ลดลง ภาพก็อาจออกมาสว่าง
ไม่สามารถตั้งค่าปรับชดเชยแสงได้ในขณะที่ตั้งเป็นตั้งค่าระดับแสงด้วยตนเองและ ISO อัตโนมัติไว้พร้อมกัน
- โปรดดู M: ตั้งค่าระดับแสงด้วยตนเอง เพื่อตั้งค่าการชดเชยแสง
ตัวเลือกการแก้ไขความคลาดเคลื่อนของเลนส์ไม่แสดงขึ้นมาทั้งหมด
- เมื่อตั้งค่า [ตัวปรับคุณภาพเลนส์ดิจิตอล] เป็น [มาตรฐาน] หรือ [สูง] ไว้ [แก้ไขสีคลาดเคลื่อน] และ [แก้ไขการเลี้ยวเบน] จะไม่แสดงขึ้น แต่ทั้งคู่จะถูกตั้งค่าเป็น [ใช้งาน] สำหรับการถ่ายภาพ
- [ตัวปรับคุณภาพเลนส์ดิจิตอล] จะไม่แสดงในการบันทึกภาพเคลื่อนไหว
ภาพไม่แสดงขึ้นหลังจากที่ถ่ายภาพในการถ่ายภาพซ้อน
การใช้แฟลชในโหมด [P] หรือ [Av] ทำให้ความเร็วชัตเตอร์ลดลง
- ตั้งค่า [แฟลชความเร็วต่ำ] ใน [: ควบคุม Speedlite ภายนอก] เป็น [1/*-1/60 วินาที อัตโนมัติ]*1 หรือ [1/* วินาที (คงที่)]*1 ()
1: ค่าของ “1/*” จะแตกต่างกันไปตามการตั้งค่าปัจจุบัน
ไม่มีการยิงแฟลช
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ติดตั้งแฟลชเข้ากับกล้องอย่างมั่นคง
แฟลชมักจะยิงแสงเต็มกำลังไฟ
- แฟลชอื่นนอกเหนือจาก Speedlite ซีรี่ส์ EL/EX ที่ใช้ในโหมดแฟลชอัตโนมัติจะยิงแสงเต็มกำลังไฟเสมอ ()
- เมื่อตั้งค่า [โหมดวัดแสงแฟลช] ใน [ตั้งค่า C.Fn แฟลช] สำหรับ [: ควบคุม Speedlite ภายนอก] เป็น [วัดแสงแฟลช TTL] (แฟลชอัตโนมัติ) แฟลชจะยิงแสงเต็มกำลังไฟเสมอ ()
ไม่สามารถตั้งค่าชดเชยแสงแฟลชได้
- หากตั้งค่าการชดเชยแสงแฟลชด้วย Speedlite แล้ว จะไม่สามารถตั้งค่าการชดเชยแสงแฟลชด้วยกล้องได้ เมื่อยกเลิกการชดเชยแสงแฟลชของ Speedlite (ตั้งเป็น 0) จึงจะสามารถตั้งค่าการชดเชยแสงแฟลชด้วยกล้องได้
การซิงค์แฟลชความเร็วสูงไม่สามารถใช้งานได้ในโหมด [Fv] หรือ [Av]
- ตั้งค่า [แฟลชความเร็วต่ำ] ใน [: ควบคุม Speedlite ภายนอก] เป็นตัวเลือกอื่นนอกเหนือจาก [1/* วินาที (คงที่)]*1 ()
1: ค่าของ “1/*” จะแตกต่างกันไปตามการตั้งค่าปัจจุบัน
ไม่สามารถถ่ายภาพด้วยรีโมทคอนโทรลได้
- ตรวจสอบตำแหน่งสวิตช์ตั้งเวลาถ่ายภาพของรีโมทคอนโทรล
- หากคุณใช้รีโมทคอนโทรลแบบไร้สาย รุ่น BR-E1 โปรดดู การถ่ายภาพด้วยรีโมทคอนโทรล หรือ การเชื่อมต่อกับรีโมทคอนโทรลแบบไร้สาย
ไอคอน [] สีขาวหรือ [] สีแดงแสดงขึ้นระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว
- แสดงว่าอุณหภูมิภายในตัวกล้องสูง สำหรับรายละเอียด โปรดดู การแสดงตัวแจ้งเตือนในการบันทึกภาพเคลื่อนไหว
การบันทึกภาพเคลื่อนไหวหยุดลงเอง
- หากความเร็วในการเขียนของการ์ดช้า การบันทึกภาพเคลื่อนไหวอาจหยุดลงโดยอัตโนมัติ สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับการ์ดที่สามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้ โปรดดู ระยะเวลาบันทึกภาพโดยประมาณ อัตราบิตภาพเคลื่อนไหว ขนาดไฟล์ และประสิทธิภาพของการ์ดที่ต้องการ หากต้องการตรวจสอบความเร็วในการเขียนของการ์ด โปรดดูข้อมูลจากเว็บไซต์ของผู้ผลิตการ์ด ฯลฯ
- ทำการฟอร์แมตแบบ Low Level เพื่อเตรียมใช้งานการ์ด หากความเร็วในการเขียนหรือการอ่านของการ์ดดูเหมือนว่าจะช้า ()
- การบันทึกภาพเคลื่อนไหวหยุดลงโดยอัตโนมัติเมื่อถึง 6 ชั่วโมง
-
ในการบันทึกภาพเคลื่อนไหวอัตราเฟรมสูง การบันทึกจะหยุดลงโดยอัตโนมัติเมื่อถึงเวลาต่อไปนี้
- ตั้งค่าเป็น 119.88/100.00 fps: 1 ชั่วโมง 30 นาที
- ตั้งค่าเป็น 239.76/200.00 fps: 45 นาที
ไม่สามารถตั้งค่าความไวแสง ISO สำหรับการบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้
- ความไวแสง ISO จะถูกตั้งค่าโดยอัตโนมัติในโหมดการบันทึกภาพ []/[]/[] คุณสามารถตั้งค่าความไวแสง ISO ได้ด้วยตนเองในโหมด [] ()
- ความไวต่ำสุดในขอบเขตความไวแสง ISO คือ ISO 200 เมื่อตั้งค่า [: เน้นโทนภาพบริเวณสว่าง] เป็น [ใช้งาน] หรือ [เพิ่มประสิทธิภาพ]
ไม่สามารถเลือกความไวแสง ISO แบบขยายได้สำหรับการบันทึกภาพเคลื่อนไหว
- ตรวจสอบการตั้งค่า [ขอบเขตไวแสง ISO] ภายใต้ [: การตั้งค่าความไวแสง ISO]
- ความไวแสง ISO แบบขยายไม่สามารถใช้งานได้เมื่อตั้งค่า [: เน้นโทนภาพบริเวณสว่าง] เป็น [ใช้งาน] หรือ [เพิ่มประสิทธิภาพ]
การเปิดรับแสงเปลี่ยนไปในระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว
- หากคุณเปลี่ยนความเร็วชัตเตอร์หรือค่ารูรับแสงในระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว ความเปลี่ยนแปลงในการเปิดรับแสงอาจถูกบันทึก
- แนะนำให้ทดสอบถ่ายภาพเคลื่อนไหวสองสามคลิป หากคุณตั้งใจที่จะทำการซูมในระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว การซูมขณะที่คุณบันทึกภาพเคลื่อนไหวอาจทำให้ระดับแสงเปลี่ยนไป หรือมีการบันทึกเสียงเลนส์ หรือสูญเสียการโฟกัส
ภาพกะพริบหรือเส้นลายทางแนวนอนปรากฏขึ้นในระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว
- การกะพริบ เส้นลายทางแนวนอน (จุดรบกวน) หรือค่าแสงที่ไม่สม่ำเสมออาจเกิดจากแสงไฟฟลูออเรสเซนต์ แสงไฟ LED หรือแหล่งแสงอื่นๆ ในระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว รวมถึงกล้องอาจบันทึกการเปลี่ยนแปลงของค่าแสง (ความสว่าง) หรือโทนสีอีกด้วย การใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่ต่ำลงอาจช่วยลดปัญหาได้ในโหมด []
วัตถุดูบิดเบี้ยวในระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว
- หากคุณขยับกล้องไปทางซ้ายหรือขวา (แพนกล้อง) หรือถ่ายภาพวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหว อาจทำให้ภาพดูบิดเบี้ยว
ไม่มีการบันทึกเสียงในภาพเคลื่อนไหว
- เสียงจะไม่ถูกบันทึกในภาพเคลื่อนไหวอัตราเฟรมสูง
ไม่มีการเพิ่มไทม์โค้ด
- ไม่มีการเพิ่มไทม์โค้ดเมื่อคุณบันทึกภาพเคลื่อนไหวอัตราเฟรมสูงโดยตั้งค่า [วิ่งขึ้น] ใน [: ไทม์โค้ด] เป็น [วิ่งอิสระ] ()
- ในการบันทึกภาพเคลื่อนไหว สามารถเพิ่มไทม์โค้ดในการแสดงผลวิดีโอ HDMI ได้ โดยการตั้งค่า [ไทม์โค้ด] เป็น [เปิด] ในการตั้งค่า [HDMI] สำหรับ [: ไทม์โค้ด] ()
ไทม์โค้ดคืบหน้าไปเร็วกว่าเวลาจริง
-
ไทม์โค้ดในการบันทึกภาพเคลื่อนไหวอัตราเฟรมสูงจะล่วงหน้าไปดังนี้ต่อวินาที ()
- ตั้งค่าเป็น 119.88/100.00 fps: 4 วินาที
- ตั้งค่าเป็น 239.76/200.00 fps: 8 วินาที
ฉันไม่สามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวในระหว่างการถ่ายภาพนิ่ง
- การบันทึกภาพเคลื่อนไหวอาจไม่สามารถทำได้ในระหว่างการถ่ายภาพนิ่ง หากมีการใช้งาน เช่น การแสดงภาพเป็นเวลานานที่ทำให้อุณหภูมิภายในตัวกล้องเพิ่มขึ้น ปิดกล้องหรือใช้วิธีการอื่นๆ และรอจนกว่ากล้องจะเย็นลง
- การลดขนาดการบันทึกภาพเคลื่อนไหวอาจทำให้สามารถบันทึกได้
ไม่สามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหว
- ฟอร์แมต (เตรียมใช้งาน) การ์ดด้วยกล้องนี้ ()
- จำเป็นต้องใช้การ์ดสองใบสำหรับการบันทึกภาพเคลื่อนไหวเมื่อตั้งค่า [: ถ่ายคู่ (ภาพนิ่ง&เคลื่อนไหว)] เป็น [เปิด] ตั้งค่า [: ถ่ายคู่ (ภาพนิ่ง&เคลื่อนไหว)] เป็น [ปิด] หรือใส่ทั้งการ์ด 1 และ 2
กล้องสั่น
- การป้องกันภาพสั่นโดยกล้องอาจทำให้รู้สึกว่ากล้องสั่น อาการดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นความเสียหาย
กล้องจะส่งเสียงดังเมื่อถูกเขย่า
- หากคุณเขย่ากล้องโดยที่ตั้งค่าสวิตช์เปิด/ปิดกล้องเป็น ระบบป้องกันภาพสั่นจะปรับเลื่อนและส่งเสียงดัง ซึ่งไม่ถือเป็นความผิดปกติแต่อย่างใด
ปัญหาในการสื่อสาร
ไม่สามารถจับคู่กับสมาร์ทโฟน
- ใช้สมาร์ทโฟนที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของ Bluetooth เวอร์ชั่น 4.1 หรือใหม่กว่า
- เปิด Bluetooth จากหน้าจอการตั้งค่าของสมาร์ทโฟน
- การจับคู่กับกล้องไม่สามารถทำได้จากหน้าจอการตั้งค่า Bluetooth ของสมาร์ทโฟน ติดตั้งแอป Camera Connect (ไม่มีค่าใช้จ่าย) บนสมาร์ทโฟน ()
- การจับคู่กับสมาร์ทโฟนที่จับคู่ไว้ก่อนหน้านี้ไม่สามารถทำได้หากข้อมูลการจับคู่ที่บันทึกไว้สำหรับกล้องตัวอื่นยังคงอยู่บนสมาร์ทโฟน ในกรณีนี้ ให้ลบการบันทึกข้อมูลของกล้องที่เก็บไว้ในการตั้งค่า Bluetooth บนสมาร์ทโฟนออกและลองจับคู่อีกครั้ง ()
ไม่สามารถตั้งค่าฟังก์ชั่น Wi-Fi ได้
- หากกล้องเชื่อมต่ออยู่กับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่นด้วยสายเชื่อมต่อ จะไม่สามารถตั้งค่าฟังก์ชั่น Wi-Fi ได้ ให้ถอดสายเชื่อมต่อออกก่อนทำการตั้งค่าฟังก์ชั่นใดๆ ()
ไม่สามารถใช้งานอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อด้วยสายเชื่อมต่อ
- อุปกรณ์อื่นๆ เช่น คอมพิวเตอร์ ไม่สามารถใช้งานกับกล้อง โดยการเชื่อมต่อด้วยสายเชื่อมต่อขณะที่กล้องเชื่อมต่ออยู่กับอุปกรณ์ผ่าน Wi-Fi ให้ยกเลิกการเชื่อมต่อ Wi-Fi ก่อนที่จะต่อสายเชื่อมต่อ
การดำเนินการ เช่น การถ่ายภาพและการเล่นภาพ ไม่สามารถใช้งานได้
- เมื่อสร้างการเชื่อมต่อ Wi-Fi แล้ว การดำเนินการ เช่น การถ่ายภาพและการเล่นภาพ อาจไม่สามารถใช้งานได้ ยกเลิกการเชื่อมต่อ Wi-Fi จากนั้นจึงดำเนินการใช้งาน
ไม่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนอีกครั้ง
- แม้ว่าจะใช้งานของกล้องและสมาร์ทโฟนเครื่องเดิม หากคุณเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าหรือเลือกการตั้งค่าอื่น อาจไม่สามารถทำการเชื่อมต่ออีกครั้งได้แม้ว่าได้เลือก SSID เดียวกันแล้ว ในกรณีนี้ ให้ลบการตั้งค่าการเชื่อมต่อของกล้องจากการตั้งค่า Wi-Fi บนสมาร์ทโฟนและตั้งค่าการเชื่อมต่ออีกครั้ง
- การเชื่อมต่ออาจไม่ได้ถูกสร้างขึ้น หากแอปที่คุณเชื่อมต่ออยู่กำลังทำงานอยู่เมื่อคุณกำหนดการตั้งค่าการเชื่อมต่อใหม่ ในกรณีนี้ ให้ออกจากแอปสักครู่แล้วเริ่มรีสตาร์ท
ปัญหาในการใช้งาน
การตั้งค่าเปลี่ยนไปเมื่อฉันสลับจากการถ่ายภาพนิ่งเป็นการบันทึกภาพเคลื่อนไหวหรือกลับกัน
- มีการเก็บการตั้งค่าแยกต่างหากไว้สำหรับการใช้งานเมื่อถ่ายภาพนิ่งและบันทึกภาพเคลื่อนไหว
ไม่สามารถเปลี่ยนการตั้งค่าด้วย , , , , , หรือ
- ปรับสวิตช์เปิด/ปิดกล้อง/ล็อคหลายหน้าที่ไปที่ เพื่อปลดล็อคหลายหน้าที่ ()
- ตรวจสอบการตั้งค่า [: ล็อคหลายหน้าที่] ()
ไม่สามารถเปลี่ยนการตั้งค่าด้วย
- ตั้งค่า [: ตัวควบคุมแบบสมาร์ท] เป็น [เปิด] หรือ [ปิดแนวตั้ง เท่านั้น]
ไม่สามารถเปลี่ยนการตั้งค่าด้วย , , หรือ สำหรับการถ่ายภาพแนวตั้ง
ไม่สามารถใช้งานกล้องแบบสัมผัสได้
ปุ่มหรือปุ่มหมุนของกล้องไม่ทำงานอย่างที่คาดหวังไว้
- ตรวจสอบการตั้งค่าบนแถบ [] (การควบคุมที่กำหนดเอง, )
- ในการบันทึกภาพเคลื่อนไหว ให้ตรวจสอบการตั้งค่า [: หน้าที่ปุ่มชัตเตอร์ของภาพเคลื่อนไหว] ()
ปัญหาในการแสดงผล
หน้าจอเมนูแสดงแถบและรายการน้อยลง
- แถบและรายการบนหน้าจอเมนูจะแตกต่างกันไปสำหรับภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว
จอแสดงผลเริ่มต้นด้วยเมนูส่วนตัว [] หรือแสดงแถบ [] เพียงอย่างเดียว
- มีการตั้งค่า [การแสดงเมนู] บนแถบ [] เป็น [แสดงจากแถบเมนูส่วนตัว] หรือ [แสดงแถบเมนูส่วนตัวเท่านั้น] ตั้งค่าเป็น [แสดงแบบปกติ] ()
อักขระตัวแรกของชื่อไฟล์เป็นขีดล่าง (“_”)
อักขระตัวที่สี่ของชื่อไฟล์ภาพนิ่งเปลี่ยนไป
- มีการตั้งค่า [ภาพนิ่ง] ใน [: ชื่อไฟล์] เป็น [*** + ขนาดภาพ] เลือกชื่อไฟล์ [รหัสเฉพาะของกล้อง] หรือชื่อไฟล์ที่บันทึกไว้ใน [ตั้งค่าผู้ใช้1] ()
ลำดับหมายเลขไฟล์ไม่เริ่มต้นที่ 0001
ข้อมูลวันที่และเวลาที่ถ่ายภาพไม่ถูกต้อง
วันที่และเวลาไม่ปรากฏบนภาพ
- วันที่และเวลาที่ถ่ายภาพไม่ปรากฏบนภาพ วันที่และเวลาที่ถ่ายภาพถูกจัดเก็บเป็นข้อมูลการถ่ายภาพไว้ในข้อมูลภาพ เมื่อคุณพิมพ์ภาพถ่าย ข้อมูลนี้สามารถใช้เพื่อใส่วันที่และเวลา ()
[###] แสดงขึ้น
- หากจำนวนภาพถ่ายที่บันทึกบนการ์ดเกินกว่าจำนวนภาพที่กล้องสามารถแสดงได้ [###] จะแสดงขึ้น
หน้าจอแสดงภาพไม่ชัดเจน
- หากหน้าจอสกปรก ให้ให้ผ้านุ่มในการทำความสะอาด
- หน้าจอแสดงผลอาจแสดงผลช้ากว่าเดิมเล็กน้อยในที่ซึ่งมีอุณหภูมิต่ำ หรือดูมืดลงในที่ซึ่งมีอุณหภูมิสูง และจะกลับเป็นปกติที่อุณหภูมิห้อง
ปัญหาในการเล่นภาพ
รูปภาพจะไม่แสดงในทันที
- อาจใช้เวลาสักครู่ก่อนที่ภาพจะแสดงบนหน้าจอหลังจากที่คุณกดปุ่ม โดยการดำเนินการอาจเร็วขึ้น หากตั้งค่า [ลดความสว่างหน้าจอ] ใน [: ประหยัดพลังงาน] เป็น [ไม่ใช้งาน]
บางส่วนของภาพกะพริบเป็นสีดำ
มีกล่องสีแดงแสดงอยู่บนภาพ
จุด AF จะไม่แสดงระหว่างที่ดูภาพ
-
จุด AF จะไม่แสดงขึ้นเมื่อดูภาพชนิดต่อไปนี้:
- ภาพที่ครอบตัด
ไม่สามารถลบภาพได้
ไม่สามารถเล่นภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวได้
- กล้องนี้อาจไม่สามารถเล่นภาพที่ถ่ายด้วยกล้องอื่น
- ภาพเคลื่อนไหวที่แก้ไขในคอมพิวเตอร์จะไม่สามารถเล่นด้วยกล้องได้
เฉพาะภาพบางภาพเท่านั้นที่สามารถเล่นได้
ได้ยินเสียงกลไกหรือเสียงการทำงานของกล้องในระหว่างการเล่นภาพเคลื่อนไหว
- ไมโครโฟนในตัวกล้องอาจบันทึกเสียงกลไกของเลนส์หรือเสียงการทำงานของกล้อง/เลนส์ด้วย หากทำการใช้งาน AF หรือใช้งานกล้องหรือเลนส์ระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว ในกรณีนี้ การใช้ไมโครโฟนภายนอกอาจลดเสียงเหล่านี้ หากเสียงยังคงรบกวนเมื่อใช้ไมโครโฟนภายนอก การถอดไมโครโฟนภายนอกออกจากกล้องและวางไว้ห่างจากกล้องและเลนส์อาจได้ผลดีกว่า
การเล่นภาพเคลื่อนไหวหยุดลงเอง
-
การเล่นภาพเคลื่อนไหวที่ยาวนานหรือการเล่นภาพเคลื่อนไหวภายใต้อุณหภูมิแวดล้อมสูงอาจทำให้อุณหภูมิภายในตัวกล้องสูงขึ้น และการเล่นภาพเคลื่อนไหวอาจหยุดลงโดยอัตโนมัติ
หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ การเล่นภาพจะถูกปิดใช้งานจนกว่าอุณหภูมิภายในตัวกล้องจะลดลง ดังนั้นให้ปิดสวิตช์กล้องและปล่อยให้กล้องเย็นลงสักครู่
ภาพเคลื่อนไหวค้างเป็นช่วงๆ
- การเปลี่ยนแปลงระดับแสงที่เด่นชัดระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหวแบบเปิดรับแสงอัตโนมัติอาจทำให้การบันทึกหยุดลงชั่วขณะจนกว่าความสว่างจะคงที่ ในกรณีนี้ ให้บันทึกในโหมด [] ()
ภาพเคลื่อนไหวมีการเล่นภาพช้า
-
เนื่องจากภาพเคลื่อนไหวอัตราเฟรมสูงจะถูกบันทึกเป็นภาพเคลื่อนไหว 29.97/25.00 fps ไฟล์เหล่านั้นจึงเล่นได้ดังนี้
- ตั้งค่าเป็น 119.88/100.00 fps: เล่นภาพช้าที่ความเร็ว 1/4
- ตั้งค่าเป็น 239.76/200.00 fps: เล่นภาพช้าที่ความเร็ว 1/8
ไม่มีภาพปรากฏบนโทรทัศน์
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตั้งค่า [: ความถี่ระบบ] เป็น [59.94Hz:NTSC] หรือ [50.00Hz:PAL] อย่างถูกต้องสำหรับระบบวิดีโอของโทรทัศน์ของคุณ
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เสียบปลั๊กสาย HDMI เข้าไปจนสุดแล้ว ()
ไม่สามารถปรับขนาดหรือตัดขอบภาพได้
- กล้องนี้ไม่สามารถปรับขนาดภาพ JPEG , ภาพ RAW หรือภาพที่ดึงเฟรมจากภาพเคลื่อนไหว 4K แล้วบันทึกเป็นภาพนิ่ง ()
- กล้องนี้ไม่สามารถตัดขอบภาพ RAW หรือภาพที่ดึงเฟรมจากภาพเคลื่อนไหว 4K แล้วบันทึกเป็นภาพนิ่ง ()
จุดแสงปรากฏขึ้นบนภาพ
- จุดแสงสีขาว สีแดง หรือสีน้ำเงินอาจปรากฏในภาพที่ถ่าย หากเซนเซอร์ได้รับผลกระทบจากรังสีคอสมิกหรือปัจจัยที่ใกล้เคียง ลักษณะที่ปรากฏเหล่านั้นอาจลดลงได้โดยดำเนินการ [ทำความสะอาดเดี๋ยวนี้] ภายใต้ [: ทำความสะอาดเซนเซอร์] ()
ปัญหาในการทำความสะอาดเซนเซอร์
มีเสียงชัตเตอร์ในระหว่างที่ทำความสะอาดเซนเซอร์
- แม้ว่าจะมีเสียงกลไกจากชัตเตอร์ในระหว่างการทำความสะอาดหลังจากเลือก [ทำความสะอาดเดี๋ยวนี้] แต่จะไม่มีการบันทึกภาพลงในการ์ด ()
การทำความสะอาดเซนเซอร์แบบอัตโนมัติไม่ทำงาน
ปัญหาในการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์
ไม่สามารถถ่ายโอนภาพไปยังคอมพิวเตอร์
- ติดตั้ง EOS Utility (ซอฟต์แวร์ EOS) บนคอมพิวเตอร์ ()
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน้าต่างหลักของ EOS Utility แสดงขึ้น
- ตรวจสอบรุ่นของแอปพลิเคชั่น
ปัญหาเกี่ยวกับฐานเสียบอเนกประสงค์
มีข้อความแสดงขึ้นบนหน้าจอเมื่อฉันติดอุปกรณ์เสริม
- หาก [การสื่อสารขัดข้องต่ออุปกรณ์เสริมอีกครั้ง] แสดงขึ้น ให้ติดอุปกรณ์เสริมใหม่อีกครั้ง ในกรณีที่ข้อความนี้แสดงขึ้นอีกครั้งหลังจากการติดอุปกรณ์เสริมใหม่ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าช่องต่อของฐานเสียบอเนกประสงค์และอุปกรณ์เสริมสะอาดและแห้ง หากคุณไม่สามารถขจัดสิ่งสกปรกหรือความชื้น โปรดติดต่อศูนย์บริการแคนนอน
- หาก [สถานะของอุปกรณ์เสริมไม่พร้อมใช้งาน] แสดงขึ้น ให้ตรวจสอบช่องต่อของฐานเสียบอเนกประสงค์และอุปกรณ์เสริม และตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์เสริมไม่เสียหาย
ฉันไม่สามารถใช้ USB บนกล้องได้ขณะที่ใช้ฐานเสียบอะแดปเตอร์อเนกประสงค์สำหรับต่อสมาร์ทโฟน รุ่น AD-P1
- พอร์ต USB ของกล้องไม่สามารถใช้งานได้ขณะที่ใช้ฐานเสียบอะแดปเตอร์อเนกประสงค์สำหรับต่อสมาร์ทโฟน รุ่น AD-P1 หากต้องการใช้พอร์ต USB ของกล้อง ให้ถอด AD-P1 ออก