ข้อแนะนำในการแก้ปัญหา

หากประสบปัญหาในการใช้กล้อง ให้อ้างอิงข้อแนะนำในการแก้ปัญหานี้ก่อน หากข้อแนะนำในการแก้ปัญหานี้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ โปรดติดต่อตัวแทนจำหน่ายของคุณหรือศูนย์บริการของแคนนอนใกล้บ้าน

ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน

ชาร์จแบตเตอรี่ไม่ได้

  • แท่นชาร์จแบตเตอรี่รุ่น LC-E19 ได้รับการออกแบบมาเฉพาะสำหรับแบตเตอรี่แพ็ครุ่น LP-E19
  • ในกรณีที่มีปัญหาในการชาร์จหรือแท่นชาร์จ โปรดดู การชาร์จแบตเตอรี่

กล้องไม่ทำงานแม้จะปรับสวิตช์เปิด/ปิดไปที่ เปิดเครื่อง

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าใส่แบตเตอรี่ลงในกล้องอย่างถูกต้อง ()
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าปิดฝาครอบช่องใส่การ์ดแล้ว ()
  • ชาร์จแบตเตอรี่ ()

ไฟแสดงสถานะยังคงสว่างหรือกะพริบแม้จะปรับสวิตช์เปิด/ปิดไปที่ ปิดเครื่อง

  • หากปิดกล้องขณะกำลังบันทึกภาพไปยังการ์ด ไฟแสดงสถานะจะยังคงสว่างหรือกะพริบต่อไปอีกสักครู่ เมื่อบันทึกภาพเสร็จสิ้นแล้ว กล้องจะปิดโดยอัตโนมัติ

[การสื่อสารกับแบตเตอรี่ขัดข้อง แบตเตอรี่นี้แสดงโลโก้ Canon หรือไม่] แสดงขึ้น

  • อย่าใช้แบตเตอรี่แพ็คอื่นนอกเหนือจากแบตเตอรี่แพ็ครุ่น LP-E19 ของแท้จากแคนนอน
  • ถอดและติดตั้งแบตเตอรี่ใหม่อีกครั้ง ()
  • หากขั้วไฟฟ้าไม่สะอาด ให้ทำความสะอาดด้วยผ้านุ่ม

พลังงานแบตเตอรี่หมดลงอย่างรวดเร็ว

  • ใช้แบตเตอรี่ที่ชาร์จไฟจนเต็ม ()
  • ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่อาจลดลง โปรดดู [ตั้งค่า: ข้อมูลแบตเตอรี่] เพื่อตรวจสอบระดับประสิทธิภาพในการชาร์จของแบตเตอรี่ () หากประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ต่ำ ให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่
  • จำนวนภาพที่ถ่ายได้จะลดลงเมื่อมีการทำงานใดๆ ต่อไปนี้:

    • กดปุ่มชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่งเป็นระยะเวลานาน
    • เปิดใช้ระบบโฟกัสอัตโนมัติบ่อยๆ โดยไม่มีการถ่ายภาพ
    • การใช้ระบบป้องกันภาพสั่นของเลนส์
    • การใช้ GPS
    • การใช้หน้าจอบ่อยๆ
    • การถ่ายภาพแบบ Live View หรือการบันทึกภาพเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน
    • การใช้ฟังก์ชั่นการสื่อสารแบบไร้สาย

กล้องจะปิดเครื่องเอง

  • ระบบปิดสวิตซ์อัตโนมัติกำลังทำงาน หากต้องการปิดใช้งานระบบปิดสวิตช์อัตโนมัติ ให้ตั้งค่า [ตั้งค่า: ปิดสวิตช์อัตโนมัติ] เป็น [ไม่ใช้งาน] ()
  • แม้ว่าจะตั้งค่า [ตั้งค่า: ปิดสวิตช์อัตโนมัติ] เป็น [ไม่ใช้งาน] หน้าจอจะยังคงปิดลงหลังจากที่ไม่ได้ใช้งานกล้องเป็นเวลาประมาณ 30 นาที (ถึงแม้กล้องยังเปิดอยู่)

ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายภาพ

ไม่สามารถติดตั้งเลนส์ได้

  • กล้องไม่สามารถใช้กับเลนส์ RF, EF-S หรือ EF-M ได้ ()

ช่องมองภาพมืด

  • ติดตั้งแบตเตอรี่ที่ชาร์จแล้วลงในกล้อง ()

ไม่สามารถถ่ายภาพหรือบันทึกภาพได้

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าใส่การ์ดอย่างถูกต้อง ()
  • หากการ์ดเต็ม ให้เปลี่ยนการ์ดหรือลบภาพที่ไม่จำเป็นทิ้งเพื่อให้มีที่ว่าง (, )
  • การถ่ายภาพจะไม่สามารถทำได้ขณะใช้ AF ครั้งเดียวเมื่อตัวแสดงการโฟกัส ตัวแสดงการโฟกัส ในช่องมองภาพกะพริบ หรือเมื่อจุด AF เป็นสีส้มระหว่างการถ่ายภาพแบบ Live View หรือการบันทึกภาพเคลื่อนไหว กดปุ่มชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่งอีกครั้งเพื่อโฟกัสใหม่โดยอัตโนมัติ หรือโฟกัสด้วยตนเอง ()

ไม่สามารถใช้งานการ์ดได้

ต้องกดปุ่มชัตเตอร์ลงสองครั้งเพื่อถ่ายภาพ

  • ตั้งค่า [การถ่ายภาพ: ถ่ายภาพโดยล็อคกระจกขึ้น] เป็น [ไม่ใช้งาน]

ภาพหลุดโฟกัสหรือเบลอ

  • ปรับสวิตช์เลือกโหมดโฟกัสของเลนส์ไปที่ โฟกัสอัตโนมัติ ()
  • กดปุ่มชัตเตอร์เบาๆ เพื่อป้องกันไม่ให้กล้องสั่น (, )
  • สำหรับเลนส์ที่มีระบบป้องกันภาพสั่น ให้ปรับสวิตช์กันสั่นไปที่ เปิดเครื่อง
  • ความเร็วชัตเตอร์อาจลดลงเมื่ออยู่ในสภาวะแสงน้อย ใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่เร็วขึ้น () ตั้งค่าความไวแสง ISO ที่สูงขึ้น () ใช้แฟลช () หรือใช้ขาตั้งกล้อง
  • โปรดดู การลดภาพเบลอ

มีจุดโฟกัสอัตโนมัติน้อยลง หรือรูปร่างของกรอบพื้นที่โฟกัสอัตโนมัติเปลี่ยนไป

  • จำนวนจุด AF ที่ใช้งานได้ รูปแบบจุด AF รูปร่างกรอบพื้นที่ AF และอื่นๆ จะแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเลนส์ที่ใช้ ()

จุดโฟกัสอัตโนมัติกะพริบหรือมีจุดโฟกัสอัตโนมัติแสดงขึ้นสองจุด

ไม่สามารถล็อคโฟกัสและจัดองค์ประกอบภาพได้

  • ตั้งค่าการทำงานของ AF เป็น AF ครั้งเดียว () การถ่ายภาพด้วยการล็อคโฟกัสจะไม่สามารถทำได้เมื่อใช้ AI Servo AF/Servo AF ()

ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องช้า

  • การถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงอาจช้าลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของพลังงานที่ใช้ ระดับแบตเตอรี่ อุณหภูมิแวดล้อม ความไวแสง ISO การลดแสงวูบวาบ ความเร็วชัตเตอร์ ค่ารูรับแสง สถานะของรูรับแสงระหว่างการถ่ายภาพต่อเนื่อง สภาพวัตถุ ความสว่าง ชนิดของเลนส์ การใช้แฟลช การตั้งค่าฟังก์ชั่นถ่ายภาพ และเงื่อนไขอื่นๆ สำหรับรายละเอียด โปรดดู การเลือกโหมดขับเคลื่อน

จำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุดขณะถ่ายภาพต่อเนื่องลดลง

  • หากคุณถ่ายภาพวัตถุที่มีรายละเอียดสูง เช่น สนามหญ้า ขนาดไฟล์จะใหญ่ขึ้น และจำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุดที่แท้จริงอาจต่ำกว่าจำนวนที่ระบุไว้ใน ข้อมูลการทำงาน

แม้จะเปลี่ยนการ์ดแล้ว แต่จำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุดที่แสดงสำหรับการถ่ายต่อเนื่องยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

  • จำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุดโดยประมาณที่แสดงในช่องมองภาพจะไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อคุณเปลี่ยนการ์ด แม้ว่าคุณจะเปลี่ยนเป็นการ์ดความเร็วสูงก็ตาม จำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุดที่แสดงในตารางใน ข้อมูลการทำงาน ขึ้นอยู่กับการ์ดทดสอบมาตรฐานของแคนนอน ดังนั้นยิ่งความเร็วในการเขียนของการ์ดสูงขึ้น จำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุดที่แท้จริงก็จะสูงขึ้น ด้วยเหตุนี้ จำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุดโดยประมาณตามที่แสดงในช่องมองภาพอาจแตกต่างจากจำนวนภาพต่อเนื่องสูงสุดที่แท้จริง

ไม่สามารถเลือกความไวแสง ISO ได้สำหรับการถ่ายภาพนิ่ง

  • ความไวต่ำสุดในขอบเขตความไวแสง ISO คือ ISO 200 เมื่อตั้งค่า [การถ่ายภาพ: เน้นโทนภาพบริเวณสว่าง] เป็น [ใช้งาน] หรือ [เพิ่มประสิทธิภาพ]

ไม่สามารถเลือกความไวแสง ISO แบบขยายได้สำหรับการถ่ายภาพนิ่ง

  • ตรวจสอบการตั้งค่า [ขอบเขตไวแสง ISO] ภายใต้ [การถ่ายภาพ: การตั้งค่าความไวแสง ISO]
  • ความไวแสง ISO แบบขยายไม่สามารถใช้งานได้เมื่อตั้งค่า [การถ่ายภาพ: เน้นโทนภาพบริเวณสว่าง] เป็น [ใช้งาน] หรือ [เพิ่มประสิทธิภาพ]
  • ความไวแสง ISO แบบขยายไม่สามารถใช้งานได้เมื่อตั้งค่า [การถ่ายภาพ: ถ่ายภาพ HDR ] เป็น [ใช้งาน]

แม้ว่าจะปรับลดการชดเชยแสง ภาพที่ออกมายังสว่างอยู่

  • ตั้งค่า [การถ่ายภาพ: ปรับแสงเหมาะสมอัตโนมัติ] เป็น [ไม่ใช้งาน] () เมื่อตั้งค่าเป็น [ต่ำ], [มาตรฐาน] หรือ [สูง] แม้ว่าคุณจะตั้งค่าการชดเชยแสงหรือการชดเชยระดับแสงแฟลชที่ลดลง ภาพก็อาจออกมาสว่าง

ไม่สามารถตั้งค่าปรับชดเชยแสงได้ในขณะที่ตั้งเป็นตั้งค่าระดับแสงด้วยตนเองและ ISO อัตโนมัติไว้พร้อมกัน

ตัวเลือกการแก้ไขความคลาดเคลื่อนของเลนส์ไม่แสดงขึ้นมาทั้งหมด

  • แม้ว่า [แก้ไขสีคลาดเคลื่อน] และ [แก้ไขการเลี้ยวเบน] จะไม่แสดงขึ้นเมื่อตั้งค่า [ตัวปรับคุณภาพเลนส์ดิจิตอล] เป็น [ใช้งาน] ฟังก์ชั่นทั้งสองจะถูกนำไปใช้ในการถ่ายภาพ เช่นเดียวกับเมื่อตั้งค่าเป็น []
  • ระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว [ตัวปรับคุณภาพเลนส์ดิจิตอล] หรือ [แก้ไขความคลาดส่วน] จะไม่แสดงขึ้น

ภาพไม่แสดงขึ้นหลังจากที่ถ่ายภาพในการถ่ายภาพซ้อน

  • เมื่อตั้งค่า [On:ต่อเนื่อง] ภาพจะไม่แสดงขึ้นเพื่อให้ตรวจดูหลังจากที่ถ่าย และไม่สามารถเล่นภาพได้ ()

การใช้แฟลชในโหมด ระบุค่ารูรับแสง ทำให้ความเร็วชัตเตอร์ลดลง

  • เพื่อให้ได้ค่าแสงที่เหมาะสมสำหรับวัตถุและฉากหลัง ความเร็วชัตเตอร์จะลดลงโดยอัตโนมัติ (การถ่ายภาพแบบใช้แฟลชความเร็วต่ำ) สำหรับภาพที่ถ่ายภายใต้แสงน้อย ในฉากกลางคืน หรือมีฉากหลังที่คล้ายกัน หากต้องการป้องกันความเร็วชัตเตอร์ต่ำ ให้ตั้งค่า [ความเร็วซิงค์แฟลชในโหมด Av] ใน [การถ่ายภาพ: ควบคุม Speedlite ภายนอก] เป็น [1/250-1/60 วินาที อัตโนมัติ] หรือ [1/250 วินาที (คงที่)] ()

แฟลชไม่ทำงาน

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าติดตั้งแฟลช (หรือสายซิงค์) เข้ากับกล้องอย่างมั่นคง
  • เมื่อใช้แฟลชในการถ่ายภาพแบบ Live View ให้ตั้งค่า [การถ่ายภาพ: โหมดชัตเตอร์] เป็นตัวเลือกอื่นนอกเหนือจาก [อิเล็กทรอนิกส์] ()

แฟลชมักจะยิงแสงเต็มกำลังไฟ

  • แฟลชอื่นนอกเหนือจาก Speedlite ซีรี่ส์ EL/EX ที่ใช้ในโหมดแฟลชอัตโนมัติจะยิงแสงเต็มกำลังไฟเสมอ ()
  • เมื่อมีการตั้งค่าระบบส่วนตัวของแฟลชสำหรับ [โหมดวัดแสงแฟลช] เป็น [วัดแสงแฟลช TTL] (แฟลชอัตโนมัติ) แฟลชจะยิงแสงเต็มกำลังไฟเสมอ ()

ไม่สามารถตั้งค่าชดเชยระดับแสงแฟลชได้

  • หากตั้งค่าการชดเชยระดับแสงแฟลชด้วย Speedlite แล้ว จะไม่สามารถตั้งค่าการชดเชยระดับแสงแฟลชด้วยกล้องได้ เมื่อยกเลิกการชดเชยระดับแสงแฟลชของ Speedlite ภายนอก (ตั้งเป็น 0) จึงจะสามารถตั้งค่าการชดเชยระดับแสงแฟลชด้วยกล้องได้

ซิงค์แฟลชความเร็วสูงไม่สามารถใช้งานได้ในโหมด ระบุค่ารูรับแสง

  • ตั้งค่า [ความเร็วซิงค์แฟลชในโหมด Av] ใน [การถ่ายภาพ: ควบคุม Speedlite ภายนอก] เป็น [อัตโนมัติ] ()

ฉันไม่สามารถถ่ายภาพแบบ Live View ได้

  • ตั้งค่า [การถ่ายภาพ: ถ่ายภาพแบบ LIVE VIEW] เป็น [ใช้งาน]

ในระหว่างการถ่ายภาพแบบ Live View ไอคอน เตือนอุณหภูมิสีขาว สีขาวหรือ เตือนอุณหภูมิสีแดง สีแดงแสดงขึ้น

  • ไอคอนนี้แสดงว่าอุณหภูมิภายในตัวกล้องเพิ่มสูง คุณภาพของภาพสำหรับภาพนิ่งอาจแย่ลง เมื่อไอคอน [เตือนอุณหภูมิสีขาว] สีขาวแสดงขึ้น หากไอคอน [เตือนอุณหภูมิสีแดง] สีแดงแสดงขึ้น บ่งบอกว่าการถ่ายภาพแบบ Live View จะหยุดลงโดยอัตโนมัติในไม่ช้า ()

ในระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว ไอคอน เตือนอุณหภูมิสีแดง สีแดงแสดงขึ้น

  • ไอคอนนี้แสดงว่าอุณหภูมิภายในตัวกล้องเพิ่มสูง หากไอคอน [เตือนอุณหภูมิสีแดง] สีแดงแสดงขึ้น บ่งบอกว่าการบันทึกภาพเคลื่อนไหวจะหยุดลงโดยอัตโนมัติในไม่ช้า ()

การบันทึกภาพเคลื่อนไหวหยุดลงเอง

  • หากความเร็วในการเขียนของการ์ดช้า การบันทึกภาพเคลื่อนไหวอาจหยุดลงโดยอัตโนมัติ สำหรับการ์ดที่สามารถใช้บันทึกภาพเคลื่อนไหว โปรดดู ข้อมูลการทำงาน หากต้องการตรวจสอบความเร็วในการเขียนของการ์ด โปรดดูข้อมูลจากเว็บไซต์ของผู้ผลิตการ์ด ฯลฯ
  • ทำการฟอร์แมตแบบ Low Level เพื่อเตรียมใช้งานการ์ด หากความเร็วในการเขียนหรือการอ่านของการ์ดดูเหมือนว่าจะช้า ()
  • การบันทึกจะหยุดลงโดยอัตโนมัติเมื่อภาพเคลื่อนไหวของคุณมีความยาวถึง 29 นาที 59 วินาที (หรือ 7 นาที 29 วินาที สำหรับภาพเคลื่อนไหวอัตราเฟรมสูง)

ไม่สามารถตั้งค่าความไวแสง ISO สำหรับการบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้

  • ความไวแสง ISO จะถูกตั้งค่าโดยอัตโนมัติในโหมดบันทึกภาพ ภาพเคลื่อนไหว / ระบุค่าความเร็วชัตเตอร์ / ระบุค่ารูรับแสง (ภาพเคลื่อนไหว) คุณสามารถตั้งค่าความไวแสง ISO ได้ด้วยตนเองในโหมด ภาพเคลื่อนไหวรับแสงเอง ()
  • ความไวต่ำสุดในขอบเขตความไวแสง ISO คือ ISO 200 เมื่อตั้งค่า [การถ่ายภาพ: เน้นโทนภาพบริเวณสว่าง] เป็น [ใช้งาน] หรือ [เพิ่มประสิทธิภาพ]

ไม่สามารถเลือกความไวแสง ISO แบบขยายได้สำหรับการบันทึกภาพเคลื่อนไหว

  • ตรวจสอบการตั้งค่า [ขอบเขตไวแสง ISO] ภายใต้ [การถ่ายภาพ: การตั้งค่าความไวแสง ISO]
  • ความไวแสง ISO แบบขยายไม่สามารถใช้งานได้เมื่อตั้งค่า [การถ่ายภาพ: เน้นโทนภาพบริเวณสว่าง] เป็น [ใช้งาน] หรือ [เพิ่มประสิทธิภาพ]
  • ความไวแสง ISO แบบขยายไม่สามารถใช้งานได้เมื่อตั้งค่ากล้องให้บันทึกภาพเคลื่อนไหว RAW

การเปิดรับแสงเปลี่ยนไปในระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว

  • หากคุณเปลี่ยนความเร็วชัตเตอร์หรือค่ารูรับแสงในระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว ความเปลี่ยนแปลงในการเปิดรับแสงอาจถูกบันทึก
  • แนะนำให้ทดสอบบันทึกภาพเคลื่อนไหวสักสองสามคลิป หากคุณตั้งใจจะทำการซูมในระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว การซูมขณะที่คุณบันทึกภาพเคลื่อนไหวอาจทำให้ระดับแสงเปลี่ยนไป หรือมีการบันทึกเสียงเลนส์ ระดับเสียงไม่สม่ำเสมอ การแก้ไขความคลาดเคลื่อนของเลนส์ไม่ถูกต้อง หรือสูญเสียการโฟกัส

ภาพกะพริบหรือเส้นลายทางแนวนอนปรากฏขึ้นในระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว

  • การกะพริบ เส้นลายทางแนวนอน (จุดรบกวน) หรือค่าแสงที่ไม่สม่ำเสมออาจเกิดจากแสงไฟฟลูออเรสเซนต์ แสงไฟ LED หรือแหล่งแสงอื่นๆ ในระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว รวมถึงกล้องอาจบันทึกการเปลี่ยนแปลงของค่าแสง (ความสว่าง) หรือโทนสีอีกด้วย ในโหมด ระบุค่าความเร็วชัตเตอร์ หรือ ตั้งค่าระดับแสงด้วยตนเอง การใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่ช้าลงอาจช่วยลดปัญหาได้

วัตถุดูบิดเบี้ยวในระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว

  • หากคุณขยับกล้องไปทางซ้ายหรือขวา (แพนกล้อง) หรือถ่ายภาพวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหว อาจทำให้ภาพดูบิดเบี้ยว

ไม่มีการบันทึกเสียงในภาพเคลื่อนไหว

  • เสียงจะไม่ถูกบันทึกในภาพเคลื่อนไหวอัตราเฟรมสูง

ไม่มีการเพิ่มไทม์โค้ด

  • ไม่มีการเพิ่มไทม์โค้ดเมื่อคุณบันทึกภาพเคลื่อนไหวอัตราเฟรมสูงโดยตั้งค่า [วิ่งขึ้น] ใน [การถ่ายภาพ: ไทม์โค้ด] เป็น [วิ่งอิสระ] () นอกจากนี้ ยังไม่มีการเพิ่มไทม์โค้ดในการแสดงผลวิดีโอ HDMI ()

ไทม์โค้ดคืบหน้าไปเร็วกว่าเวลาจริง

  • ไทม์โค้ดในการบันทึกภาพอัตราเฟรมสูงจะล่วงหน้าไป 4 วิ ต่อวินาที ()

ฉันไม่สามารถถ่ายภาพนิ่งในระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว

  • ไม่สามารถถ่ายภาพนิ่งในระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้ หากต้องการถ่ายภาพนิ่ง ให้หยุดการบันทึกภาพเคลื่อนไหวและดำเนินการถ่ายภาพโดยใช้ช่องมองภาพหรือการถ่ายภาพแบบ Live View

ปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติไร้สาย

ไม่สามารถจับคู่กับสมาร์ทโฟน

  • ใช้สมาร์ทโฟนที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของ Bluetooth เวอร์ชั่น 4.1 หรือใหม่กว่า
  • เปิด Bluetooth จากหน้าจอการตั้งค่าของสมาร์ทโฟน
  • การจับคู่กับกล้องไม่สามารถทำได้จากหน้าจอการตั้งค่า Bluetooth ของสมาร์ทโฟน ติดตั้งแอป Camera Connect ที่กำหนดให้ใช้ (ไม่มีค่าใช้จ่าย) บนสมาร์ทโฟน ()
  • การจับคู่กับสมาร์ทโฟนที่จับคู่ไว้ก่อนหน้านี้ไม่สามารถทำได้หากข้อมูลการจับคู่ที่บันทึกไว้สำหรับกล้องตัวอื่นยังคงอยู่บนสมาร์ทโฟน ในกรณีนี้ ให้ลบการบันทึกข้อมูลของกล้องที่เก็บไว้ในการตั้งค่า Bluetooth บนสมาร์ทโฟนออกและลองจับคู่อีกครั้ง ()+

ไม่สามารถตั้งค่าฟังก์ชั่น Wi-Fi

  • หากกล้องเชื่อมต่ออยู่กับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่นด้วยสายเชื่อมต่อ ฟังก์ชั่น Wi-Fi จะไม่สามารถตั้งค่าได้ ให้ถอดสายเชื่อมต่อออกก่อนทำการตั้งค่าฟังก์ชั่นใดๆ

ไม่สามารถใช้งานอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อด้วยสายเชื่อมต่อ

  • อุปกรณ์อื่นๆ เช่น คอมพิวเตอร์ ไม่สามารถใช้งานกับกล้อง โดยการเชื่อมต่อด้วยสายเชื่อมต่อ ขณะที่กล้องเชื่อมต่ออยู่กับอุปกรณ์ผ่าน Wi-Fi ยกเลิกการเชื่อมต่อ Wi-Fi ก่อนที่จะใช้สายเชื่อมต่อ

การดำเนินการ เช่น การถ่ายภาพและการเล่นภาพ ไม่สามารถใช้งานได้

  • เมื่อสร้างการเชื่อมต่อ Wi-Fi แล้ว อาจไม่สามารถทำการใช้งาน เช่น การถ่ายภาพและเล่นภาพได้ ยกเลิกการเชื่อมต่อ Wi-Fi จากนั้นจึงดำเนินการใช้งาน

ไม่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนอีกครั้ง

  • แม้ว่าจะใช้งานของกล้องและสมาร์ทโฟนเครื่องเดิม หากคุณเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าหรือเลือกการตั้งค่าอื่น อาจไม่สามารถทำการเชื่อมต่ออีกครั้งได้แม้ว่าได้เลือก SSID เดียวกันแล้ว ในกรณีนี้ ให้ลบการตั้งค่าการเชื่อมต่อกล้องออกจากการตั้งค่า Wi-Fi บนสมาร์ทโฟนและตั้งค่าการเชื่อมต่ออีกครั้ง
  • การเชื่อมต่ออาจไม่ได้ถูกสร้างขึ้น หาก Camera Connect กำลังทำงานอยู่เมื่อคุณกำหนดการตั้งค่าการเชื่อมต่อใหม่ ในกรณีนี้ ให้ออกจาก Camera Connect สักครู่แล้วเริ่มการทำงานใหม่

ปัญหาในการใช้งาน

การตั้งค่าเปลี่ยนไปเมื่อฉันสลับจากการถ่ายภาพนิ่งเป็นการบันทึกภาพเคลื่อนไหวหรือกลับกัน

  • มีการเก็บการตั้งค่าแยกต่างหากไว้สำหรับการใช้งานเมื่อถ่ายภาพนิ่งและบันทึกภาพเคลื่อนไหว

ฉันไม่สามารถเปลี่ยนการตั้งค่าด้วย ปุ่มหมุนหลัก, ปุ่มหมุนควบคุมทันใจ, ปุ่มอเนกประสงค์, ตัวควบคุมแบบสมาร์ท หรือ แตะ/สัมผัส

  • ปรับสวิตช์เปิด/ปิดไปที่ เปิดเครื่อง ()
  • ตรวจสอบการตั้งค่า [ตั้งค่าระบบส่วนตัว6: ล็อคหลายหน้าที่] ()

ไม่สามารถเปลี่ยนการตั้งค่าด้วย ปุ่มหมุนหลัก, ปุ่มอเนกประสงค์ หรือ ตัวควบคุมแบบสมาร์ท สำหรับการถ่ายภาพแนวตั้ง

  • ปรับสวิตช์เปิด/ปิดบนกริปแนวตั้งไปที่ เปิดเครื่อง ()
  • ตั้งค่า [ตั้งค่าระบบส่วนตัว7: ตัวควบคุมแบบสมาร์ท] เป็น [เปิด] ()

ไม่สามารถใช้งานกล้องแบบสัมผัสได้

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตั้งค่า [ตั้งค่า: แบบสัมผัส] เป็น [มาตรฐาน] หรือ [ไว] ()

ปุ่มหรือปุ่มหมุนของกล้องไม่ทำงานอย่างที่คาดหวังไว้

  • ตรวจสอบการตั้งค่า [ตั้งค่าระบบส่วนตัว6: ตั้งการควบคุมด้วยตนเอง] ()

ปัญหาในการแสดงผล

จอแสดงผลเริ่มต้นด้วยเมนูส่วนตัว [เมนูส่วนตัว] หรือแสดงแถบ [เมนูส่วนตัว] เพียงอย่างเดียว

  • มีการตั้งค่า [การแสดงเมนู] บนแถบ [เมนูส่วนตัว] เป็น [แสดงจากแถบเมนูส่วนตัว] หรือ [แสดงแถบเมนูส่วนตัวเท่านั้น] ตั้งค่าเป็น [แสดงแบบปกติ] ()

อักขระตัวแรกของชื่อไฟล์เป็นขีดล่าง (“_”)

  • ตั้งค่า [การถ่ายภาพ: พิกัดสี] เป็น [sRGB] หากตั้งค่าเป็น [Adobe RGB] อักขระตัวแรกจะเป็นขีดล่าง ()

อักขระตัวที่สี่ของชื่อไฟล์เปลี่ยนไป

  • มีการตั้งค่า [ตั้งค่า: ชื่อไฟล์] เป็น [*** + ขนาดภาพ] เลือกชื่อไฟล์ที่ไม่ซ้ำกันของกล้องหรือชื่อไฟล์ที่บันทึกไว้ในการตั้งค่าผู้ใช้ 1 ()

ลำดับหมายเลขไฟล์ไม่เริ่มต้นที่ 0001

  • หากการ์ดมีภาพที่บันทึกอยู่แล้ว หมายเลขภาพอาจไม่เริ่มต้นจาก 0001 ()

ข้อมูลวันที่และเวลาที่ถ่ายภาพไม่ถูกต้อง

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตั้งค่าวันที่และเวลาที่ถูกต้อง ()
  • ตรวจสอบไทม์โซนและการปรับเวลาในฤดูร้อน ()

วันที่และเวลาไม่ปรากฏบนภาพ

  • วันที่และเวลาที่ถ่ายภาพไม่ปรากฏบนภาพ วันที่และเวลาที่ถ่ายภาพถูกจัดเก็บเป็นข้อมูลการถ่ายภาพไว้ในข้อมูลภาพ เมื่อทำการพิมพ์ คุณสามารถประทับวันที่และเวลาลงบนภาพได้ โดยใช้วันที่และเวลาที่บันทึกไว้ในข้อมูลการถ่ายภาพ ()

[###] แสดงขึ้น

  • หากจำนวนภาพถ่ายที่บันทึกบนการ์ดเกินกว่าจำนวนภาพที่กล้องสามารถแสดงได้ [###] จะแสดงขึ้น

หน้าจอแสดงภาพไม่ชัดเจน

  • หากหน้าจอสกปรก ให้ใช้ผ้านุ่มในการทำความสะอาด
  • การแสดงผลของหน้าจออาจดูช้าลงเล็กน้อยในที่อุณหภูมิต่ำหรืออาจดูดำมืดในที่อุณหภูมิสูง แต่จะกลับสู่สภาวะปกติที่อุณหภูมิห้อง

ปัญหาในการเล่นภาพ

บางส่วนของภาพกะพริบเป็นสีดำ

  • มีการตั้งค่า [การเล่นภาพ: เตือนบริเวณสว่างโพลน] เป็น [ใช้งาน] ()

มีกล่องสีแดงแสดงอยู่บนภาพ

  • มีการตั้งค่า [การเล่นภาพ: แสดงจุด AF] เป็น [ใช้งาน] ()

จุด AF จะไม่แสดงระหว่างที่ดูภาพ

  • จุด AF จะไม่แสดงในการเล่นภาพที่ตัดขอบ

ไม่สามารถลบภาพได้

  • หากภาพได้รับการป้องกัน จะไม่สามารถลบภาพได้ ()

ไม่สามารถเล่นภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวได้

  • กล้องนี้อาจไม่สามารถเล่นภาพที่ถ่ายด้วยกล้องอื่น
  • ภาพเคลื่อนไหวที่แก้ไขในคอมพิวเตอร์จะไม่สามารถเล่นด้วยกล้องได้

เฉพาะภาพบางภาพเท่านั้นที่สามารถเล่นได้

  • มีการกรองภาพไว้สำหรับการเล่นภาพด้วย [การเล่นภาพ: ตั้งเงื่อนไขค้นหาภาพ] () ล้างเงื่อนไขค้นหาภาพ

ได้ยินเสียงกลไกหรือเสียงการทำงานของกล้องในระหว่างการเล่นภาพเคลื่อนไหว

  • หากทำการใช้งาน AF หรือคุณควบคุมกล้องหรือเลนส์ระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหว ไมโครโฟนในตัวกล้องอาจบันทึกเสียงกลไกของเลนส์หรือเสียงการทำงานของกล้อง/เลนส์ด้วย ในกรณีนี้ การใช้ไมโครโฟนภายนอกอาจลดเสียงเหล่านี้ หากเสียงยังคงรบกวนเมื่อใช้ไมโครโฟนภายนอก การถอดไมโครโฟนภายนอกออกจากกล้องและวางไว้ห่างจากกล้องและเลนส์อาจได้ผลดีกว่า

การเล่นภาพเคลื่อนไหวหยุดลงเอง

  • การเล่นภาพเคลื่อนไหวที่ยาวนานหรือการเล่นภาพเคลื่อนไหวภายใต้อุณหภูมิแวดล้อมสูงอาจทำให้อุณหภูมิภายในตัวกล้องสูงขึ้น และการเล่นภาพเคลื่อนไหวอาจหยุดลงโดยอัตโนมัติ

    หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ การเล่นภาพจะถูกปิดใช้งานจนกว่าอุณหภูมิภายในตัวกล้องจะลดลง ดังนั้นให้ปิดสวิตช์กล้องและปล่อยให้กล้องเย็นลงสักครู่

ภาพเคลื่อนไหวค้างเป็นช่วงๆ

  • การเปลี่ยนแปลงระดับแสงที่สังเกตเห็นได้ชัดระหว่างการบันทึกภาพโดยใช้โปรแกรมระดับแสงอัตโนมัติ อาจทำให้การบันทึกภาพหยุดลงชั่วขณะจนกว่าความสว่างจะสม่ำเสมอ ในกรณีเช่นนี้ ให้ถ่ายภาพในโหมด ตั้งค่าระดับแสงด้วยตนเอง ()

ภาพเคลื่อนไหวมีการเล่นภาพช้า

  • ภาพเคลื่อนไหวอัตราเฟรมสูงจะถูกบันทึกเป็น 29.97 fps หรือ 25.00 fps ดังนั้นจึงมีการเล่นภาพช้าด้วยความเร็ว 1/4

ไม่มีภาพปรากฏบนโทรทัศน์

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตั้งค่า [ตั้งค่า: ระบบวิดีโอ] เป็น [สำหรับ NTSC] หรือ [สำหรับ PAL] อย่างถูกต้องสำหรับระบบวิดีโอของโทรทัศน์ของคุณ
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เสียบปลั๊กสาย HDMI เข้าไปจนสุดแล้ว ()

ตัวอ่านการ์ดตรวจหาการ์ดไม่พบ

  • การ์ด CFexpress อาจไม่ถูกรับรู้โดยตัวอ่านการ์ดบางชนิดหรือในบางระบบปฏิบัติการได้อย่างถูกต้อง ในกรณีนี้ ให้เชื่อมต่อกล้องเข้ากับคอมพิวเตอร์ด้วยสายเชื่อมต่อ จากนั้นนำเข้าภาพไปยังคอมพิวเตอร์โดยใช้ EOS Utility (ซอฟต์แวร์ EOS, )

ไม่สามารถปรับขนาดหรือตัดขอบภาพได้

  • ภาพ JPEG เล็ก, ภาพ RAW, ภาพที่ถ่ายโดยตั้งค่า [การถ่ายภาพ: ถ่ายภาพ HDR ] ใน [การถ่ายภาพ: ตั้งค่า HDR PQ] เป็น [ใช้งาน] และภาพที่ดึงเฟรมจากภาพเคลื่อนไหว 4K แล้วบันทึกเป็นภาพนิ่งจะไม่สามารถปรับขนาดได้ด้วยกล้อง ()
  • ภาพ RAW, ภาพที่ถ่ายโดยตั้งค่า [การถ่ายภาพ: ถ่ายภาพ HDR ] ใน [การถ่ายภาพ: ตั้งค่า HDR PQ] เป็น [ใช้งาน] และภาพที่ดึงเฟรมจากภาพเคลื่อนไหว 4K แล้วบันทึกเป็นภาพนิ่งจะไม่สามารถตัดขอบได้ด้วยกล้อง ()

จุดแสงปรากฏขึ้นบนภาพ

  • จุดแสงสีขาว สีแดง หรือสีน้ำเงินอาจปรากฏในภาพที่ถ่าย หากเซนเซอร์ได้รับผลกระทบจากรังสีคอสมิกหรือปัจจัยที่ใกล้เคียง ลักษณะที่ปรากฏเหล่านั้นอาจลดลงได้โดยดำเนินการ [ทำความสะอาดเดี๋ยวนี้] ภายใต้ [ตั้งค่า: ทำความสะอาดเซนเซอร์] ()

ปัญหาในการทำความสะอาดเซนเซอร์

มีเสียงชัตเตอร์ในระหว่างที่ทำความสะอาดเซนเซอร์

  • แม้ว่าจะมีเสียงกลไกจากชัตเตอร์ในระหว่างการทำความสะอาดหลังจากเลือก [ทำความสะอาดเดี๋ยวนี้] แต่จะไม่มีการบันทึกภาพลงในการ์ด ()

การทำความสะอาดเซนเซอร์แบบอัตโนมัติไม่ทำงาน

  • หากคุณปรับสวิตช์เปิด/ปิด เปิดเครื่อง และ ปิดเครื่อง ซ้ำไปมาในช่วงเวลาสั้นๆ ไอคอน ทำความสะอาดเดี๋ยวนี้ อาจไม่แสดงขึ้น ()

ปัญหาในการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์

ไม่สามารถถ่ายโอนภาพไปยังคอมพิวเตอร์

  • ติดตั้ง EOS Utility (ซอฟต์แวร์ EOS) บนคอมพิวเตอร์ ()
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน้าต่างหลักของ EOS Utility แสดงขึ้น
  • หากมีการเชื่อมต่อกล้องผ่าน Wi-Fi แล้ว กล้องจะไม่สามารถสื่อสารกับคอมพิวเตอร์โดยใช้สายเชื่อมต่อได้
  • ตรวจสอบรุ่นของแอปพลิเคชั่น